“แม็คกรุ๊ป” โชว์ผลงานงวดไตรมาส 3/64 แกร่ง! สวนกระแสพิษโควิด-19 กำไรสุทธิพุ่ง 20% เฉียด 100 ล้านบาท กวาดรายได้จากการขาย 776 ล้านบาท หลังเดินเกมการตลาดเชิงรุกอัดแคมเปญ-จัดโปรโมชั่น กระตุ้นออนไลน์-ออฟไลน์เต็มรูปแบบ พร้อมคุมเข้มต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง เพิ่มขีดความสามารถการทำกำไร หนุน NP ขยับแตะระดับ 11.9%
นายวิรัช เสรีภาณุ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ “MC” เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2564 (1 ม.ค.-31 มี.ค 2564) ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมค้าปลีกภายในประเทศ ยังคงต้องเผชิญกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอก 2 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2563 ต่อเนื่องถึงกุมภาพันธ์ 2564 แต่อย่างไรก็ตาม จากนโยบายการมุ่งเน้นบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิระดับสูงต่อเนื่อง ส่งผลใหบริษัทฯมีกำไรสุทธิ 93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.8% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
โดยรายได้จากการขายอยู่ที่ 776 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังเดินเกมการตลาดเชิงรุกเต็มรูปแบบทั้งออฟไลน์และออนไลน์ หนุนยอดขายผ่านร้านค้าปลีกตนเอง (Freestanding Shop) ยังคงเติบโตต่อเนื่อง 11.4% แตะ 477 ล้านบาท ขณะที่ร้านค้าออนไลน์ (E-Commerce) เติบโตถึง 13.5% อยู่ที่ 95 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นผลมาจากสัดส่วนการขายสินค้า รวมไปถึงกลยุทธ์ด้านราคา และช่องทางออนไลน์ที่เติบโตดีต่อเนื่อง หนุนขีดความสามารถการทำกำไรให้เพิ่มสูงขึ้น โดยอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เพิ่มขึ้นจาก 57.1% ในช่วงเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ระดับ 60.7%และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) เพิ่มขึ้นจาก 10.3% ในช่วงเดียวกันปีก่อนมาอยู่ที่ระดับ 11.9% จากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยอัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 46.5%
“ภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมค้าปลีกยังคงเปราะบางและต้องเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด จากการกลับมาแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ระลอกใหม่นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่จากการที่ภาครัฐไม่ shut down ประเทศ ผนึกกับการมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะมาตรการคนละครึ่ง, เราชนะ ช่วยฟื้นกำลังซื้อผู้บริโภคให้ปรับดีขึ้นบ้าง และจากการที่เราได้ปรับ Supply chain ทั้งระบบ รวมถึงปรับ Business model อย่างฉับพลันไปก่อนหน้าจากการระบาดรอบแรก จึงทำให้เราสามารถรักษาการเติบโตทั้งกำไรและรายได้ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง” นายวิรัชกล่าว