ณ ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และนายสันธิษณ์ วัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด หรือ บบส.อารีย์ ร่วมลงนามสัญญาซื้อขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ครั้งที่ 1) โดยมีนายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายสันธิษณ์ วัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด หรือ บบส.อารีย์ กล่าวว่า บบส.อารีย์ จัดตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท มีสัดส่วนการร่วมทุนระหว่างธนาคารออมสินและ BAM เท่ากันที่ร้อยละ 50 และมีระยะเวลาดำเนินการไม่เกินกว่า 15 ปี นับตั้งแต่วันที่เริ่มดำเนินการ ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์เพื่อสังคม สร้างโอกาสให้กับลูกหนี้ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดย มีพันธกิจในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ภายใต้การบริหารผลตอบแทนที่เหมาะสมและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และภายหลังจากที่ บบส.อารีย์ ได้รับใบอนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์จากธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ทางธนาคารออมสินจึงได้โอนขายสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) ให้ บบส.อารีย์ มาบริหารจัดการครั้งแรก จำนวน 133,687 บัญชี ภาระหนี้เงินต้น 10,711.93 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มลูกหนี้สินเชื่อทั่วไปมีหลักประกันมีจำนวน 1,172 บัญชี ภาระหนี้เงินต้น 1,334.30 ล้านบาท กลุ่มลูกหนี้สินเชื่อทั่วไปไม่มีหลักประกันมีจำนวน 104,533 บัญชี ภาระหนี้เงินต้น 8,730.52 ล้านบาท และกลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิตมีจำนวน 27,982 บัญชี ภาระหนี้เงินต้น 647.11 ล้านบาท
บบส.อารีย์ มีความพร้อมในการกำกับติดตามดูแลการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ในเบื้องต้นจะมีการออกหนังสือแจ้งไปยังลูกหนี้ที่รับซื้อรับโอนทุกราย ในส่วนการบริหารจัดการนั้นกลุ่มลูกหนี้ที่มีหลักประกันบริษัทจะดำเนินเองหรืออาจจะให้ BAM เป็นผู้บริหารจัดการ เนื่องจาก BAM ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้ถือหุ้นแล้ว ยังเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีชื่อเสียงและมีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการหนี้ที่มีหลักประกันอีกด้วย ในส่วนของลูกหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและลูกหนี้บัตรเครดิตจำนวนกว่า 130,000 รายนั้น ทาง บบส.อารีย์ จะดำเนินการเองหรือบริหารจัดการผ่านสำนักงานติดตามหนี้ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับทางบริษัทแล้ว โดยการปรับโครงสร้างหนี้จะพิจารณาจากความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้แต่ละราย ด้วยความยืดหยุ่นและหลากหลาย อาทิ การขยายเวลาการผ่อนชำระ การปรับลดเงินต้น ปรับลดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เป็นต้น
นายสันธิษณ์ กล่าวอีกว่า บบส.อารีย์ พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ทุกรายเข้ามาเจรจาประนอมหนี้เพื่อหาข้อยุติร่วมกัน โดยเจรจาบนพื้นฐานการพิจารณาถึงความสามารถที่แท้จริงและกำลังการผ่อนชำระของลูกหนี้เป็นหลัก ดังนั้นจึงขอเชิญชวนให้ลูกหนี้ติดต่อเข้ามาเจรจาประนอมหนี้ได้ที่เบอร์โทร 02-268-8500 ซึ่ง บบส.อารีย์ ให้ความเชื่อมั่นว่าจะช่วยเหลือลูกหนี้ทุกรายเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน นอกจากนี้ในช่วงแรกของการดำเนินงานทางธนาคารออมสินจะช่วยประสานงานกับลูกหนี้ของ บบส.อารีย์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกหนี้ทุกราย ในกรณีที่ไม่สามารถติดต่อ บบส.อารีย์ ได้