วันที่ 11 กันยายน 2563 เวลา 10.00 น.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

เป็นประธานเปิดงานสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจบริการเพื่อพัฒนาศักยภาพและปรับตัวสู่ยุค New Normal” ภายใต้แนวคิด “Thriving in the New Normal ตั้งรับ ปรับตัว หาโอกาส” เพื่อสร้างเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ หาแนวทางขับเคลื่อนฟื้นฟูภาคธุรกิจบริการไทย 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจการจัดงาน ธุรกิจเกม ธุรกิจแอนิเมชั่น และธุรกิจโลจิสติกส์ ให้ผ่านพ้นวิกฤติหลังโควิด-19กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
ในพิธีเปิดงาน ซึ่งจัดขึ้นวันนี้ (วันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2563) ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร กระทรวงพาณิชย์ โดยนายจุรินทร์ ร่วมกับผู้แทนจาก 3 สถาบันการเงินชั้นนำของไทย ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) พร้อมทั้งผู้แทนจากภาคเอกชนในกลุ่มธุรกิจบริการ

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

ได้แก่ สมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย สมาคมการแสดงสินค้าไทย และสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย มาร่วมแลกเปลี่ยนทรรศนะในการประสานพลังพาธุรกิจบริการผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ เน้นว่าสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และเผชิญกับความท้าทายต่างๆ โดยเฉพาะในด้านการเงินและการลงทุน จึงให้ปรับยุทธศาสตร์ แนวทางใหม่ในการสร้างความเข็มแข็งให้กับผู้ประกอบการโดยเฉพาะในภาคบริการให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงได้จัด “โครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจบริการเพื่อพัฒนาศักยภาพและปรับตัวสู่ยุค New Normal” นี้ขึ้น

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

เพื่อสนองตอบความต้องการของภาคเอกชนในด้านการแสวงหาแหล่งเงินทุน และการเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ โดยกิจกรรมไฮไลท์ในวันนี้ได้แก่ การจับคู่ธุรกิจและให้คำปรึกษาระหว่างสถาบันทางการเงินทั้ง 3 แห่งกับผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจการจัดงาน แอนิเมชั่น เกม และโลจิสติกส์ รวมจำนวนกว่า 50 ราย โดยจะเกิดการจับคู่ธุรกิจไม่ต่ำกว่า 100 คู่ และคาดว่าจะเกิดการปล่อยสินเชื่อมูลค่ากว่า 165 ล้านบาท

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การค้าในภาคบริการได้ทวีความสำคัญขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และโลก โดยการค้าบริการมีมูลค่าเพิ่มมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการค้าด้านเกษตรหรืออุตสาหกรรม

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

กระทรวงพาณิชย์ภายใต้การนำของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จึงได้กำหนดให้การส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจบริการเป็น 1 ใน 10 นโยบายหลักของกระทรวงพาณิชย์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ที่ผ่านมารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้นำทัพผู้ประกอบการเดินทางไปเจรจาการค้าในต่างประเทศ และผลักดันให้เกิดกิจกรรมเจรจาการค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้กับผู้ประกอบการในภาคบริการเป็นจำนวนมาก โดยกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้สามารถสร้างมูลค่าได้ถึงกว่า 14,200 ล้านบาท

ช่วยผู้ประกอบการ จุรินทร์ นำ พาณิชย์ จับมือ 3 สถาบันการเงินชั้นนำปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ 4 กลุ่มธุรกิจบริการเพื่อฟื้นฟูธุรกิจ หลังปีที่ผ่านมาสร้างมูลค่ากว่า 14,200 ล้านบาท วันที่ 11 กันยายน 2563 เวลา 10.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจบริการเพื่อพัฒนาศักยภาพและปรับตัวสู่ยุค New Normal” ภายใต้แนวคิด “Thriving in the New Normal ตั้งรับ ปรับตัว หาโอกาส” เพื่อสร้างเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ หาแนวทางขับเคลื่อนฟื้นฟูภาคธุรกิจบริการไทย 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจการจัดงาน ธุรกิจเกม ธุรกิจแอนิเมชั่น และธุรกิจโลจิสติกส์ ให้ผ่านพ้นวิกฤติหลังโควิด-19 ในพิธีเปิดงาน ซึ่งจัดขึ้นวันนี้ (วันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2563) ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร กระทรวงพาณิชย์ โดยนายจุรินทร์ ร่วมกับผู้แทนจาก 3 สถาบันการเงินชั้นนำของไทย ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) พร้อมทั้งผู้แทนจากภาคเอกชนในกลุ่มธุรกิจบริการ ได้แก่ สมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย สมาคมการแสดงสินค้าไทย และสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย มาร่วมแลกเปลี่ยนทรรศนะในการประสานพลังพาธุรกิจบริการผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ เน้นว่าสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และเผชิญกับความท้าทายต่างๆ โดยเฉพาะในด้านการเงินและการลงทุน จึงให้ปรับยุทธศาสตร์ แนวทางใหม่ในการสร้างความเข็มแข็งให้กับผู้ประกอบการโดยเฉพาะในภาคบริการให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงได้จัด “โครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจบริการเพื่อพัฒนาศักยภาพและปรับตัวสู่ยุค New Normal” นี้ขึ้น เพื่อสนองตอบความต้องการของภาคเอกชนในด้านการแสวงหาแหล่งเงินทุน และการเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ โดยกิจกรรมไฮไลท์ในวันนี้ได้แก่ การจับคู่ธุรกิจและให้คำปรึกษาระหว่างสถาบันทางการเงินทั้ง 3 แห่งกับผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจการจัดงาน แอนิเมชั่น เกม และโลจิสติกส์ รวมจำนวนกว่า 50 ราย โดยจะเกิดการจับคู่ธุรกิจไม่ต่ำกว่า 100 คู่ และคาดว่าจะเกิดการปล่อยสินเชื่อมูลค่ากว่า 165 ล้านบาท นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การค้าในภาคบริการได้ทวีความสำคัญขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และโลก โดยการค้าบริการมีมูลค่าเพิ่มมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการค้าด้านเกษตรหรืออุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ภายใต้การนำของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จึงได้กำหนดให้การส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจบริการเป็น 1 ใน 10 นโยบายหลักของกระทรวงพาณิชย์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ที่ผ่านมารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้นำทัพผู้ประกอบการเดินทางไปเจรจาการค้าในต่างประเทศ และผลักดันให้เกิดกิจกรรมเจรจาการค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้กับผู้ประกอบการในภาคบริการเป็นจำนวนมาก โดยกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้สามารถสร้างมูลค่าได้ถึงกว่า 14,200 ล้านบาท “กระทรวงพาณิชย์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจบริการเพื่อพัฒนาศักยภาพและปรับตัวสู่ยุค New Normal จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเชื่อมโยง สร้างเครือข่ายและส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการ มีความพร้อม มีศักยภาพ และพร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป” อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว

“กระทรวงพาณิชย์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจบริการเพื่อพัฒนาศักยภาพและปรับตัวสู่ยุค New Normal จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเชื่อมโยง สร้างเครือข่ายและส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการ มีความพร้อม มีศักยภาพ และพร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป” อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว