ก.พลังงาน – กฟผ. เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่งเสริมพลังงานสะอาด ติดตั้งโซลาร์เซลล์เบอร์ 5 แก่มูลนิธิโครงการหลวง พร้อมร่วมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ

กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ โดยส่งมอบระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เบอร์ 5 แก่มูลนิธิโครงการหลวง ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พร้อมร่วมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ณ สถานีวิจัยโครงการหลวงแม่หลอด อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

โดยมีพลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นายชำนาญ กายประสิทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และคณะผู้บริหาร ร่วมงานการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) เบอร์ 5 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ จ.เชียงใหม่ กำลังผลิต 72 กิโลวัตต์ เป็น 1 ใน 10 โครงการสืบสานพระราชปณิธานองค์ราชัน ที่กระทรวงพลังงานและ กฟผ. จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ด้วยการนำนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาช่วยสนับสนุนการดำเนินงาน และช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับมูลนิธิโครงการหลวงระบบผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ เบอร์ 5 กำลังผลิต 72 กิโลวัตต์ ประกอบด้วยแผงโซลาร์เซลล์ จำนวน 120 แผง พร้อมระบบอินเวอร์เตอร์จำนวน 3 ชุด โดยควบคุมและบริหารข้อมูลการใช้พลังงานผ่านแอปพลิเคชัน คาดว่าสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 107,200 หน่วยต่อปี คิดเป็นร้อยละ 12 ของการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 482,400 บาทต่อปี อีกทั้งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 56 ตันต่อปี นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานและ กฟผ. ยังได้สนับสนุนรถกอล์ฟไฟฟ้า 23 ที่นั่ง ขนาด 11 กิโลวัตต์ จำนวน 1 คัน ให้แก่มูลนิธิโครงการหลวง เพื่อใช้ประโยชน์ภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ อีกด้วย

พร้อมนี้ กระทรวงพลังงานและ กฟผ. ยังได้จัดกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บนความร่วมมือแบบมีส่วนร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่ จำนวน 20 ราย ในโครงการปลูกป่าวนเกษตรบนพื้นที่ 72 ไร่ ด้วยต้นไม้ 6,000 ต้น ประกอบด้วย ไม้ป่า 3,000 ต้น และ ไม้ผล 3,000 ต้น อาทิ ต้นสัก จันทอง ไผ่ เงาะ เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว แก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ สร้างประโยชน์จากการดูดซับกักเก็บคาร์บอน ช่วยส่งเสริมและฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ