กฟผ. เตรียมมาตรการเข้มทุกโรงไฟฟ้าและศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า รับมือการแพร่ระบาด COVID-19 ทั้งความพร้อมของบุคลากรและอุปกรณ์ที่สำคัญ มั่นใจไม่กระทบต่อการผลิตและส่งจ่ายไฟฟ้าให้แก่ประชาชน
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ได้เตรียมความพร้อมของบุคลากรและอุปกรณ์ที่สำคัญในการผลิตและส่งไฟฟ้าเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงผลกระทบจากสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไม่ให้กระทบต่อการผลิตและส่งจ่ายไฟฟ้าให้แก่ประชาชน โดยมีมาตรการเข้มตั้งแต่การเฝ้าระวังในพื้นที่โรงไฟฟ้า ห้ามผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่โรงไฟฟ้าและอาคารศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด ตรวจวัดอุณหภูมิของพนักงานทุกคนก่อนเข้าอาคาร ให้พนักงานใส่หน้ากากอนามัยในขณะทำงาน พร้อมทั้งทำความสะอาดอาคารและอุปกรณ์ทั้งหมดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและแอลกอฮอล์เป็นประจำทุกวัน นอกจากนี้ กฟผ. ได้เตรียมมาตรการรองรับการระบาดของเชื้อ COVID-19 หากรัฐบาลมีการประกาศยกระดับการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 เข้าสู่ความรุนแรงในระดับ 3 ซึ่งพร้อมยกระดับและปฏิบัติทันที โดยมีศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าสำรอง หากต้องปิดศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าเพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อกรณีพบพนักงานในศูนย์ติดเชื้อ COVID-19 รวมถึงเตรียมพร้อมให้ผู้บริหารและพนักงาน กฟผ. ที่เคยปฏิบัติงานในศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการควบคุมและสั่งการระบบไฟฟ้าเข้ามาร่วมเสริมทีม ส่วนพนักงานที่เกี่ยวข้องให้ทำงานตามมาตรการ Work from Home ผ่านเทคโนโลยีระบบสารสนเทศซึ่งเป็นเครือข่ายภายในของ กฟผ.
สำหรับโรงไฟฟ้าต่างๆ ทั้งในงานเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า กฟผ. ได้คัดเลือกพนักงานที่มีทักษะหลากหลายในสาขาไฟฟ้า เครื่องกล และความชำนาญในการใช้อุปกรณ์ พร้อมทั้งสามารถปฏิบัติงานในพื้นที่ควบคุมได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน หากเกิดกรณีพนักงานไม่เพียงพอจะดำเนินมาตรการขยายเวลาการทำงานจากกะละ 8 ชั่วโมง เป็น 12 ชั่วโมง พร้อมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์พิเศษ อะไหล่ คู่มือที่ใช้ในการซ่อมบำรุงรักษาเพื่อให้สามารถซ่อมบำรุงได้อย่างทันท่วงทีในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ตลอดจนรายชื่อร้านค้า หรือบริษัทที่ต้องส่งเครื่องมืออุปกรณ์ในการเดินเครื่องและบำรุงรักษาในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ของ กฟผ. จะทำให้การผลิตและส่งจ่ายกำลังไฟฟ้าให้แก่ประชาชนสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่กระทบต่อความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศ