กรุงเทพฯทีเอ็มเอ็กซ์ (TMX) บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำด้านการบริหารซัพพลายเชนดิจิทัลแบบเอ็นด์-ทู-เอ็นด์ ครบวงจร ประกาศความคืบหน้าในการขยายการให้บริการในเอเชีย เพื่อสานต่อความมุ่งมั่นในการส่งเสริมซัพพลายเชนแห่งอนาคตในประเทศไทยและภูมิภาค TMX ได้จัดโครงสร้างทีมใหม่ในประเทศไทยและภูมิภาคเพื่อพัฒนาธุรกิจทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย เพื่อตอบสนองต่อการเติบโตของภูมิภาคอาเซียนที่มีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในห่วงโซ่คุณค่าโลจิสติกส์และการผลิต โดยในช่วงแรกเน้นให้ความสำคัญกับประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม

ในการนี้ บริษัทได้แต่งตั้งนายดีน โจนส์ เป็นกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชีย และนายคาร์ล เฮมัส เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชีย ทั้งคู่มีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในการบริหารซัพพลายเชน และมีความชำนาญการในภูมิภาคมากว่าสองทศวรรษ โดยทั้งสองท่านจะประจำการที่ประเทศไทยและร่วมสร้างการเติบโตให้กับ TMX  นอกจากนี้ TMX ยังแต่งตั้งนายเรย์มอนด์ กิลลอน เป็นผู้อำนวยการด้านซัพพลายเชนประจำภูมิภาคเอเชีย และนางสาวนัยนา กอเจริญรัตน์ เป็นผู้จัดการประจำประเทศไทย โดยทั้งคู่ประจำการอยู่ที่กรุงเทพฯ สำหรับนายเรย์มอนด์มีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในภูมิภาคจากการร่วมก่อตั้งบริษัทอีซี่ฮอล (Ezyhaul) แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการขนส่งทางบกชั้นนำ และการดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงที่ เคพีเอ็มจี ทีเอ็นที เอ็กซเพรส โบเออร์ แอนด์ โครน และ ยูทีไอ เวิลด์ไวด์  ส่วนนางสาวนัยนา มีประสบการณ์ตรงด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนทั้งในระดับประเทศและระดับสากล โดยก่อนหน้านี้เคยทำงานที่แอลเอฟ โลจิสติกส์  ซีว่า ลอจีสติกส์ และบริษัทซีพี รีเทลลิงค์

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้: โอกาสในการเติบโตที่โดดเด่นในทุกด้าน

นายทราวิส เออร์ริดจ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMX Global กล่าวว่า “อาเซียนมอบโอกาสในการเติบโตที่โดดเด่นในทุกด้าน และ TMX จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของภูมิภาคนี้ด้วยการสร้างเสริมความคล่องตัวและความสามารถในการปรับตัวของซัพพลายเชนในภูมิภาค” “อุปสงค์จากผู้บริโภคในอาเซียนยังมีขนาดใหญ่มาก ทำให้ภูมิภาคนี้มีศักยภาพที่จะเป็นผู้พลิกเกมสำหรับหลายบริษัทที่ต้องการเติบโตท่ามกลางสภาพแวดล้อมของโลกที่ยากลำบากและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นอกจากนี้ ภูมิภาคนี้ยังได้อานิสงค์จากบริษัทที่ต้องการสร้างกลยุทธ์ซัพพลายเชนที่หลากหลายและเร่งดำเนินกลยุทธ์ ‘จีน + 1’ และด้วยปัจจัยแวดล้อมดังกล่าวทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความเหมาะสมต่อการยกระดับห่วงโซ่คุณค่าภาคการผลิต ในขณะที่ประเทศไทยตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์และมีศักยภาพสูงที่จะเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์สำหรับหลายอุตสาหกรรม จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ TMX เลือกประเทศไทยเป็นสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาค”   สำหรับบทบาทของ TMX ด้านการสนับสนุนซัพพลายเชนในภูมิภาค นายดีน กล่าวว่า “TMX ร่วมงานกับองค์กรธุรกิจในการสร้างซัพพลายเชนที่รองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อให้เข้าใจความต้องการอย่างถ่องแท้ก่อนที่จะนำโซลูชันที่ทันสมัยและครบวงจรมาใช้จริง เพื่อให้ซัพพลายเชนมีประสิทธิภาพสูงสุดและปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของลูกค้า บริษัทได้สรรหาบุคลากรที่มีความสามารถสูงในแวดวงอุตสาหกรรมจากทั่วภูมิภาค ทีมงานของเราจึงพร้อมทั้งความเชี่ยวชาญและความรู้ที่จะช่วยเร่งให้ธุรกิจมีการเติบโตในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้”

ไทยพร้อมนำการเติบโตในภูมิภาค

นายคาร์ล กล่าวว่า “ประเทศไทยจะมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์สำหรับเอเชียของเรา เนื่องจากไทยได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งในการขับเคลื่อนภูมิภาคนี้ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ อาเซียนและประเทศไทยมีการเติบโตของอุปสงค์ในตลาดอีคอมเมิร์ซซึ่งดึงดูดผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซระดับโลกเข้ามาลงทุนในคลังสินค้าและโลจิสติกส์ในภูมิภาค ความพยายามของประเทศไทยในการพัฒนาการเชื่อมต่อและโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองกับระบบราง (Motorways-Rails) ผนวกกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของอสังหาริมทรัพย์ประเภทคลังสินค้าและการลงทุน ทำให้ประเทศไทยมีโอกาสประสบความสำเร็จในระดับสากลได้”   สำนักงานของ TMX ในประเทศไทยตั้งอยู่ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางย่านไซเบอร์เทคของกรุงเทพฯ ช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงบุคลากรความสามารถสูงที่หลากหลายและสามารถทำงานร่วมกับทั้งบริษัทข้ามชาติที่มีความมั่นคงและสตาร์ทอัพที่มีการดำเนินงานด้วยนวัตกรรม ทั้งนี้นายดีนและนายคาร์ล จะทำงานร่วมกับทีมบุคลากรที่มีประสบการณ์สูงด้านซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาค

นอกจากนี้ TMX ยังแต่งตั้งผู้บริหารเชิงกลยุทธ์อีกหลายตำแหน่งในภูมิภาค ได้แก่ นายเกร็ก โอเชีย ผู้จัดการประจำประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ และนายโธมัส แฮร์ริส   ผู้จัดการประจำประเทศเวียดนาม อีกทั้งยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจด้วยความเชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมด้วยการแต่งตั้ง ดร. อรุล อรุเลสวราน เป็นกรรมการประจำภูมิภาคเอเชีย รับผิดชอบดูแลด้านความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน และนายแซม คอนรอย เป็นกรรมการประจำภูมิภาคเอเชีย รับผิดชอบดูแลด้านทรานส์ฟอร์เมชันและการเติบโตทางธุรกิจในประเทศเวียดนาม