บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เข้าลงทุนในบริษัท อัลกามา ร่วมกับผู้ร่วมลงทุนเชิงกลยุทธ์รายอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมบริษัท อัลกามา ตั้งขึ้นในปี 2556 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และนับเป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านส่วนประกอบอาหารจากไมโครแอลจีหรือสาหร่ายขนาดเล็ก
กรุงเทพมหานคร – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศเข้าร่วมลงทุนร่วมกับผู้ร่วมทุนเชิงกลยุทธ์รายอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมในบริษัท อัลกามา จากประเทศฝรั่งเศสในรอบการระดมทุนซีรีย์เอ โดยอัลกามาสามารถระดมทุนได้ทั้งสิ้น 13 ล้านยูโร ทั้งนี้ ไทยยูเนี่ยนได้ลงทุนผ่านกองทุน Venture Fund ของบริษัท บริษัท อัลกามา ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 โดยปัจจุบันมีธุรกิจในประเทศฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และเบลเยี่ยม ดำเนินธุรกิจนวัตกรรมการผลิตสาหร่ายเพื่อเป็นส่วนประกอบอาหารให้กับบริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันและผลิตในระดับอุตสาหกรรมเพื่อทดแทนโปรตีนจากสัตว์ หรือเพื่อเสริมสารอาหารให้กับผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของอัลกามาอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทามัลกา® หรือ Tamalga® ซึ่งเป็นกลุ่มส่วนประกอบอาหาร ใช้แทนไข่ไก่ในการผลิตระดับอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสินค้าขนมอบและเบเกอรี่ การระดมทุนในรอบนี้จะช่วยผลักดันการยกระดับนวัตกรรมไปสู่เชิงพาณิชย์ พัฒนาการนำไปใช้ในแบบใหม่ๆ และสร้างโรงกลั่นชีวภาพขนาด 10,000 ตารางเมตรในเมืองลีช์ ประเทศเบลเยี่ยมการลงทุนในอัลกามาและความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจโปรตีนทางเลือกของไทยยูเนี่ยนได้เป็นอย่างดี ตลอดจนการพัฒนาส่วนประกอบอาหารสำหรับผลิตภัณฑ์จากอาหารทะเล
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ที่ไทยยูเนี่ยน เราเชื่อในการดูแลสุขภาพให้กับผู้คนควบคู่ไปกับการดูแลรักษาท้องทะเลให้อุดมสมบูรณ์ ซึ่งสาหร่ายแอลจีนับเป็นแหล่งส่วนประกอบอาหารจากทะเลที่มีความยั่งยืน สอดคล้องไปกับเป้าหมายของบริษัทในด้านความยั่งยืน บุคลากรของอัลกามามีความสามารถและประสบการณ์ทั้งในด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ ในการที่จะสร้างให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับอุตสาหกรรมโปรตีนในวงกว้าง ไทยยูเนี่ยนมีความยินดีที่จะได้ร่วมงานกับอัลกามาต่อไป”
นายอัลวิน เซเวอเรียง ประธานเจ้าหน้าที่บริษัทและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท อัลกามา กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับไทยยูเนี่ยนในการสร้างสรรค์ส่วนประกอบอาหารจากอาหารทะเลที่มีการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืนและดีต่อสุขภาพ และด้วยการพัฒนาสาหร่ายแอลจีที่สามารถต่อยอดได้อีกมากนี้ เราจะสามารถพัฒนาสินค้านวัตกรรมที่ตอบโจทย์ในอนาคตได้ไปอีกระดับ”ไทยยูเนี่ยนได้จัดตั้งกองทุน venture fund ขึ้นในปี 2562 โดยมุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโปรตีนทางเลือก สารอาหารเพื่อสุขภาพ และเทคโนโลยีชีวภาพ ตลอดจนห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจอาหาร และการลงทุนเชิงกลยุทธ์ต่าง ๆ โดยกองทุนนี้จะลงทุนและทำงานร่วมกับบริษัทต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อร่วมมือและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาให้สอดคล้องไปกับความมุ่งมั่นของบริษัทการดูแลความเป็นอยู่ของผู้คนควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรของท้องทะเล หรือ Healthy Living, Healthy Oceans
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Venture Capital ได้ที่นี่ https://www.thaiunion.com/en/innovation/thai-union-ventures