ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล (PROSPECT) โชว์อัตราเช่าพื้นที่ทรัพย์สินคลังสินค้าและโรงงานช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา สูงกว่า 90% ของพื้นที่เช่าทั้งหมด หลังผู้เช่าเดิมทยอยต่อสัญญาและได้ผู้เช่ารายใหม่เพิ่มเติม เตรียมจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์จากงวดผลการดำเนินงานวันที่ 14 สิงหาคม – 30 กันยายนที่ผ่านมา อัตรารวม 0.1227 บาทต่อหน่วย กำหนดปิดสมุดทะเบียนกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิรับประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ชูจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ของโลจิสติกส์รวมถึงผู้เช่าจากหลากหลายอุตสาหกรรม มั่นใจรักษาอัตราเช่าพื้นที่อยู่ในระดับสูง
นางสาวอรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ PROSPECT เปิดเผยว่า หลังจากได้นำทรัสต์ PROSPECT เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กองทรัสต์ฯ ซึ่งเข้าลงทุนในทรัพย์สินประเภทอาคารคลังสินค้าและโรงงานสำเร็จรูป ในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนหรือ Bangkok Free Trade Zone (BFTZ) ย่านบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 23 มีผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3/2563 อยู่ในระดับที่ดี แม้ภาพรวมเศรษฐกิจในไทยและต่างประเทศยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 48.55 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 30.58 ล้านบาท
ขณะที่อัตราการเช่าพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานอยู่ในระดับสูงกว่า 90% ของพื้นที่ให้เช่ารวมทั้งหมดเกือบ 2.2 แสนตารางเมตร ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับกองทรัสต์ที่เข้าลงทุนในทรัพย์สินประเภทเดียวกัน โดยในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ทางโครงการได้ทยอยทำสัญญากับผู้เช่ารายเดิมที่ครบกำหนด ทำสัญญากับผู้เช่ารายใหม่ และมีผู้เช่าเดิมบางรายได้ขอเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการขยายธุรกิจอีกด้วย ส่วนผู้เช่ารายใหม่พบว่ามีทั้งผู้ประกอบการในไทยและต่างประเทศ เช่น ธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ ธุรกิจอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจอาหาร ที่ยังเติบโตได้ดีในช่วงที่ผ่านมา
“จากจุดเด่นของโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของการคมนาคมขนส่งและภาคอุตสาหกรรม ประกอบกับทางโครงการมีประเภทอาคารคลังสินค้าและโรงงานให้เลือกหลากหลาย รวมถึงมีพื้นที่เช่าที่อยู่ในเขตปลอดอาการหรือ Free Zone ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้นำเข้าและส่งออก จึงทำให้ผู้เช่ารายเดิมต้องการต่อสัญญาและเป็นที่สนใจจากผู้เช่ารายใหม่ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้กองทรัสต์มีการติดตามผู้เช่าเดิมอย่างต่อเนื่องและยังไม่พบว่ามีผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบทางธุรกิจจนต้องปิดกิจการ ขณะเดียวกันก็ได้รุกหาผู้เช่ารายใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มอัตราการเช่าพื้นที่สูงขึ้น” นางสาวอรอนงค์กล่าว
ทั้งนี้ ฐานะการเงินของกองทรัสต์ในปัจจุบันมีความแข็งแกร่ง ประกอบกับผลการดำเนินงานที่เป็นไปตามเป้าหมาย ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 จึงมีมติอนุมัติจ่ายประโยชน์ตอบแทนจากผลการดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม – 30 กันยายน 2563 แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในอัตรารวม 0.1227 บาทต่อหน่วย กำหนดปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ตอบแทน ในวันที่ 19พฤศจิกายน 2563 (Book Closing Date) และเตรียมจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้
ขณะที่แนวโน้มความต้องการเช่าพื้นที่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ยังอยู่ในระดับที่ดี ปัจจุบันได้เจรจากับผู้เช่ารายเดิมที่จะทยอยหมดสัญญาในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และได้แสดงความต้องการต่อสัญญาเช่าแล้วมากกว่า 85% รวมถึงได้ขยายฐานผู้เช่ารายใหม่เพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ โดยกรณีผู้เช่าจากต่างประเทศที่ยังไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้นั้น กองทรัสต์บริหารจัดการโดยให้ลูกค้าวางเงินมัดจำล่วงหน้าผ่านตัวแทนในประเทศไทยเพื่อจองพื้นที่ จึงมั่นใจว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายจะสามารถรักษาอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ในระดับสูงกว่า 90% ได้ เนื่องจากมีผู้เช่าที่กระจายตัวอยู่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลายช่วยลดความเสี่ยงเมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว