บริษัทดีทึจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (DTGO) ได้รับเลือกจากสถาบัน Ethisphere ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในการกำหนดและพัฒนามาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมให้เป็นหนึ่งในองค์กรที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกประจำปี 2564 หรือ ค.ศ. 2021 World’s Most Ethical Companies World’s Most Ethical Companies คือการรับรององค์กรที่มีความมุ่งมั่นและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในการบริหารและดำเนินกิจการอย่างมีจริยธรรม มีความรับผิดชอบ และมุ่งสร้างประโยชน์ต่อสังคม สิ่งแวดล้อม ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน คู่ค้า ลูกค้าและชุมชน
โดยสถาบัน Ethisphere นิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งเมื่อปี 2549 หรือเมื่อ 15 ปีที่ผ่าน เป็นผู้นำระดับโลกในการกำหนดและยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมที่ขับเคลื่อนลักษณะขององค์กร โดยสถาบัน Ethisphere ได้ยกย่องความสำเร็จองค์กรต่าง ๆ ผ่านการคัดเลือกองค์กรที่มีการดำเนินงานอย่างมีจริยธรรม หรือ World’s Most Ethical Companies และมอบความสำเร็จของชุมชนในองค์กรผ่าน Business Ethics Leadership Alliance (BELA)
มาตรฐานจริยธรรมดังกล่าวให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการ ภาวะผู้นำและความน่าเชื่อถือขององค์กร การปฏิบัติตามแนวปฏิบัติด้านจริยธรรมขององค์กร วัฒนธรรมด้านจริยธรรมขององค์กร และผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร โดยพิจารณาในรายละเอียดตั้งแต่การกำหนดนโยบาย ไปจนถึงการวางแผนงาน และการกำกับและทวนสอบสอบผลการปฏิบัติงาน โดยสถาบัน Ethisphere จะทำการประเมินและคัดเลือกโดยเทียบเคียงกับบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน และมีเกณฑ์ที่ยอมรับได้ในการประกาศให้บริษัทนั้นๆอยู่ในรายชื่อ World’s Most Ethical Companies ในแต่ละปี
DTGO ถือเป็นองค์กรแรกจากประเทศไทยที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในองค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกติดต่อกัน 3 ปีซ้อน นับตั้งแต่ได้รับครั้งแรกในปี 2562 โดยเป็น 1 ใน 4 องค์กรจากภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกเท่านั้นที่ได้รับเลือก โดยอีก 3 องค์กร ได้แก่ CBRE JLL และ Realogy จากประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับปี 2564 มีองค์กรที่ได้รับการประกาศว่าเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมมีจำนวนทั้งสิ้น 135 องค์กรใน 47 กลุ่มอุตสาหกรรม จาก 22 ประเทศ โดยมีบริษัทที่ได้รับการยอมรับต่อเนื่องยาวนานตลอด 15 ปี เช่น Ecolab และ International Paper ประเทศสหรัฐอเมริการ Kao ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีบริษัทชั้นนำมากมายที่ได้รับการยอมรับ เช่น บริษัท 3M บริษัท Microsoft บริษัท Kimberly-Clark บริษัท Kellogg’s บริษัท IBM เป็นต้น
ในการนี้ นายปกิต เอี่ยมโอภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทดีทีจีโอ (DTGO) ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 6 ซีอีโอจากบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกประจำปีนี้ ในการแบ่งปันประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมในช่วง CEO Highlight ร่วมกับ Michael Dell, Chairman and CEO, Dell Technologies , Jo Ann Jenkins CEO of AARP, Halsey Cook Jr. CEO of Milliken, Julie Sweet CEO of Accenture และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์
นายทิมโมธี เออร์บริช (Mr. Timothy Erblich) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสถาบัน Ethisphere กล่าวว่า “ในขณะที่ทุกคนกำลังพบกับความท้าทายในปี 2563 เราได้เห็นหลายองค์กรที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากด้วยการได้รับความไว้วางใจจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องขององค์กร และจากความมุ่งมั่นและตั้งใจในการทำงานที่มีจริยธรรมและความซื่อสัตย์ องค์กรใน World’s Most Ethical Companies ยังคงแสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่ต่อการทำงานภายใต้พันธกิจขององค์กร เพื่อทำให้เกิดคุณค่าสูงสุดและสร้างผลลัพธ์ในเชิงบวกต่อทุกคน ผมขอแสดงความยินดีต่อทีมงานทุกคนที่ DTGO สำหรับการเป็นส่วนหนึ่งใน World’s Most Ethical Companies องค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม”
นายปกิต เอี่ยมโอภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทดีทีจีโอ (DTGO) กล่าวว่า DTGO และกลุ่มบริษัทในเครือ รวมถึงทีมงานทุกคนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการยอมรับด้านการดำเนินงานทางจริยธรรมตามมาตรฐานระดับโลกเป็นระยะเวลา 3 ปีติดต่อกัน พวกเรายินดีและภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ผ่านการประเมินที่เข้มงวดภายใต้ระบบ Ethics Quotient ที่มี 5 หัวข้อสำคัญอย่างด้านวัฒนธรรม ด้านบทบาททางสิ่งแวดล้อมและสังคม ด้านบทบาททางจริยธรรมและการปฏิบัติตาม ด้านการกำกับดูแลกิจการ และด้านการสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมที่แข็งแกร่ง
“กลุ่มบริษัท DTGO ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2536 ภายใต้แนวคิด Business Social Integration ซึ่งหมายถึงการทำธุรกิจและการทำกิจการเพื่อสังคมคู่ขนานกันไป โดยมีการจัดสรร 2% ของรายรับสูงสุดให้กับการริเริ่มและดำเนินโครงการภาคสังคม เพื่อสร้างคุณค่าให้กับทุกสิ่งบนโลก ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการทำงานขององค์กรคือ “Adding Value in Everything We do” นอกจากนี้ทาง DTGO ได้สนับสนุนมูลนิธิพุทธรักษา ที่เน้นด้านการศึกษา และมูลนิธิ ธนินท์ เทวี เจียรวนนท์ ที่เน้นด้านสาธารณสุข บลูคาร์บอนโซไซตี้ ที่เน้นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก ผมและสมาชิกองค์กรทุกคนขอขอบคุณลูกค้า พันธมิตรภาคธุรกิจและภาคสังคม นักลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน สำหรับความมุ่งมั่นในการร่วมดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมตลอดมา” นายปกิต กล่าว
DTGO คือกลุ่มบริษัทที่มีความหลากหลายทางธุรกิจ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2536 ด้วยพันธกิจที่ให้ความสำคัญทั้งด้านธุรกิจและสังคม ภายใต้อุดมการณ์และกลยุทธ์ ที่ว่า “Adding Value in Everything We do” โดยมีบริษัทภายในกลุ่มมากมาย อาทิบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีเป้าหมายในการนำแนวคิดและพันธกิจของกลุ่มบริษัทไปใช้เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับโครงการต่าง ๆ เช่น เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Forestias) โครงการเมืองในป่าบนพื้นที่กว่า 398 ไร่ ริมถนนบางนา ซึ่งเป็นโครงการที่ออกแบบด้วยการนำระบบนิเวศอันสมบูรณ์มาผสมผสานกับเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว เพื่อสร้างสังคมที่มีคุณภาพและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนในทุกองค์ประกอบของโครงการ
ตลอดจน การดำเนินงานและค่านิยมที่โดดเด่นของ DTGO ถูกนำเสนอในงานศึกษา “Leaders on Purpose” เกี่ยวกับการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยแนวคิดหลักขององค์กรที่สามารถช่วยโลกให้กลับมาดีขึ้น หรือ “build back better” หลังจากวิกฤตการณ์แพร่ระบาด สำหรับ Leaders on Purpose จัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ยูนิลีเวอร์ ธนาคารโลก และวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน