บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้รับคัดเลือกเป็น สมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices : DJSI) ประจำปี 2564 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 และเป็น 1 ใน 3 ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ อาหาร (Food Products Industry) ประเภทตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) จากความโดดเด่นด้านการบริหารนวั ตกรรม ด้านสุขภาพและโภชนาการ และด้านการสูญเสี ยอาหารและขยะอาหาร สะท้อนความแข็งแกร่งในการบริ หารจัดการกระบวนการผลิ ตอาหารปลอดภัยด้วยความรับผิ ดชอบตามมาตรฐานสากลอย่างมีประสิ ทธิภาพ นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า การได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI มาตลอด 7 ปี แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ซีพีเอฟ ในการเป็นผู้นำสร้างความมั่ นคงทางอาหารของโลกตามมาตรฐานสาก ลด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมั ยและความเชี่ยวชาญด้านอุ ตสาหกรรมเกษตรแบบครบวงจร สร้างหลักประกันอาหารปลอดภัยให้ กับผู้บริโภคทั่วโลก โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจที่โปร่ งใสและรับผิดชอบต่อสังคมสู่ การพัฒนาอย่างยั่งยืน ก่อให้เกิดประโยชน์ต่ อประเทศชาติทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ดัชนี DJSI เป็นหนึ่งในมาตรฐานสูงสุดสำหรั บการประเมินความยั่งยืนองค์ กรระดับโลก โดยพิจารณาจากผลการดำเนิ นงานในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งการประกาศผลปีนี้ ซีพีเอฟ ยังคงรักษาความโดดเด่นด้ านการบริหารนวัตกรรม (Innovation Management) ด้านสุขภาพและโภชนาการ (Health & Nutrition) ด้านการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร (Food Loss & waste) ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นของบริษั ทฯในการบรรเทาการเปลี่ ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ร่วมกับประชาคมโลก และเป้าหมายการยกระดับการบริ โภคที่ยั่งยืนจากนวั ตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีเป็ นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ซีพีเอฟ ร่วมมือกับคู่ค้าธุรกิจพั ฒนาอาหารสัตว์รักษ์สิ่งแวดล้ อมของสุกรและไก่ไข่ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกจากมูลสัตว์ได้ถึง 72,500 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่ าในปี 2563 มีศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารซีพี เอฟเป็น One-Stop-Service สำหรับลูกค้าเพื่อออกแบบและพั ฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้ องการของผู้บริโภค เช่น ผลิตภัณฑ์โปรตีนสัตว์จากพืช (Plant-based Protein) ภายใต้แบรนด์ Meat Zero และหมูชีวาที่มีโอเมก้า 3 และคำนึงถึงการลดการสูญเสี ยอาหารและขยะอาหาร (Food Loss & waste)ในกระบวนการผลิต โดยพัฒนากระบวนการผลิตทั้ งกระบวนการให้ ปราศจากขยะอาหารและช่วยลดปริ มาณขยะสู่บ่อฝังกลบ เพื่อขับเคลื่อนเป้ าหมายลดขยะอาหารจากการดำเนินธุ รกิจให้เป็นศูนย์ภายในปี 2573 ตอกย้ำการเป็นผู้นำในการสร้ างความมั่นคงทางอาหารที่มีคุ ณภาพ ปลอดภัย และเข้าถึงได้ “2 ปี ที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาแห่งความท้ าทายจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซีพีเอฟ มีการปรับการบริหารจัดการธุรกิ จอย่างรวดเร็วให้เกิดความคล่ องตัวและขับเคลื่อนธุรกิจได้เต็ มประสิทธิภาพโดยไม่หยุดชะงัก ด้วยมาตรการด้านสุขอนามัยสูงสุ ดอย่างเคร่งครัด สร้างหลักประกันคนปลอดภัย อาหารปลอดภัย” นายประสิทธิ์ กล่าว
ซีพีเอฟ ได้ประกาศกลยุทธ์ความยั่งยื นใหม่ “CPF 2030 Sustainability in Action” เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุ รกิจให้เติบโตต่อเนื่องในอีก 9 ปีข้างหน้า ทั้งในประเทศไทยและกิจการในต่ างประเทศ สอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) โดยมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มี กระบวนการผลิตคาร์บอนต่ำตลอดห่ วงโซ่ ซึ่ งนอกจากการลดขยะอาหารในกระบวนกา รผลิตของบริษัทเป็นศูนย์แล้ว ยังมีเป้าหมายระหว่างทางขององค์ กร คือ ลดของเสียที่ถูกนำไปฝั งกลบและเผาให้เป็นศูนย์ และรับซื้อวัตถุดิบหลักจากแหล่ งที่ปราศจากการตัดไม้ทำลายป่า 100% ภายในปี 2573 รวมถึงการปลูกป่าและเพิ่มพื้นที่ สีเขียวในสถานประกอบการเพื่อดู ดซับคาร์บอนไดออกไซด์ และยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวั ตกรรมอาหารที่มีคุณค่ าทางโภชนาการ ให้อาหารแต่ละมื้อตอบโจทย์ ความต้องการของผู้บริ โภคในอนาคตด้านสุขภาพที่ดี สร้างภูมิคุ้มกันและเป็นมิตรกั บสิ่งแวดล้อม (Future Food) รองรับความต้องการในอนาคต และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม สมดุลธรรมชาติ ตามแนวทางการผลิตและการบริ โภคอย่างยั่งยืน.