นางสาววสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการ ด้านกำกับคนกลางและประกันภัยภู มิภาค สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่ งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริ มผลิตภัณฑ์ประกันภัยเชิงรุกสู่ ระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน ประจำปี 2567 พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงาน คปภ. ผู้บริหารสมาคมประกันชีวิตไทย และผู้บริหารสมาคมประกันวินาศภั ยไทย ลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร จัดโดยสำนักงาน คปภ. ภาค 5 (อุบลราชธานี) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดมุกดาหาร โดยมีนายณรงค์ เทพรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ณ ห้องพลอย บอลรูม โรงแรมพลอยพาเลซ จังหวัดมุกดาหาร
รองเลขาธิการ ด้านกำกับคนกลางฯ เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. มีนโยบายในการส่งเสริมความรู้ สร้างความเข้าใจให้ประชาชนทั่ วประเทศ ตระหนักและเห็นความสำคั ญของการทำประกันภัยที่เป็นเครื่ องมือในการบริหารความเสี่ยงให้ กับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ดังนั้น จึงได้ดำเนินโครงการส่งเสริมผลิ ตภัณฑ์ประกันภัยเชิงรุกสู่ระดั บภูมิภาคอย่างยั่งยืน ประจำปี 2567 เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้ าหมายสามารถเข้าถึงระบบประกันภั ยในบริบทของพื้นที่ได้อย่างทั่ วถึง และครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 9 โดยได้เลือกจังหวัดมุกดาหารเป็ นจังหวัดสุดท้ายของการดำเนิ นโครงการฯ เนื่องจากเล็งเห็นว่าชาวจังหวั ดมุกดาหาร มีทรัพยากรธรรมชาติและศิลปวั ฒนธรรมที่งดงามอยู่ในที่เดียวกั น รวมทั้งยังมีสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 2 ที่เป็นส่วนหนึ่งของเส้ นทางเศรษฐกิจทางตะวันตกและตะวั นออกที่ช่วยสร้างความเติบโตให้ กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าจังหวัดมุ กดาหาร มีประชากรอาศัยกว่า 350,000 คน มีสถิติการเกิดอุบัติบนท้ องถนนอยู่ในระดับสูงซึ่งเป็นปั ญหาสำคัญของจังหวัด ประกอบกับมีผู้ทำประกันภัยเพียง 85,000 คน ดังนั้น แสดงให้เห็นว่าชาวจังหวัดมุ กดาหาร ยังมีการใช้ประกันภัยเป็นเครื่ องมือในการบริหารความเสี่ ยงทางการเงินอย่างจำกัด
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมและยกระดั บการเข้าถึงประกันภัยที่สอดคล้ องกับบริบทของพื้นที่ เช่น การประกันภัยอุบัติเหตุ การประกันภัยสุขภาพ การประกันภัย พ.ร.บ. และการประกันอัคคีภัยสำหรับที่ อยู่อาศัย จึงได้จัดกิจกรรมการเสวนาในหั วข้อ “อุบัติเหตุ บรรเทาได้ด้วยการประกันภัย” โดยมีคณะกรรมการและสมาชิกกองทุ นหมู่บ้าน ในเขตพื้นที่ อำเภอเมืองมุกดาหาร และผู้แทนกองทุนหมู่บ้าน เข้าร่วมงานกว่า 100 คน และได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่ งจากหน่วยงานเครือข่ายร่วมออกบู ธประชาสัมพันธ์ความรู้ด้ านการประกันภัย ได้แก่ สำนักนายทะเบียนคุ้มครองผู้ ประสบภัยจากรถ กองทุนประกันชีวิต สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ ปรึกษาการเงินจังหวัดมุกดาหาร บริษัทประกันภัย ผู้ประกอบการ OTOP และหน่วยงานภาคีเครือข่าย รวม 19 บูธ
รองเลขาธิการ ด้านกำกับคนกลางฯ กล่าวด้วยว่า การประกันภัยเป็นเรื่องใกล้ตั วของประชาชนเพราะชีวิตมีความเสี่ ยงตลอดเวลา ดังนั้น หากมีประกันภัยไว้ก็จะช่วยให้ สามารถบริหารความเสี่ยงให้กับชี วิตและทรัพย์สิ นของตนเองและครอบครัวได้ รวมไปถึงยังเป็นเครื่องมื อของการออมในอนาคต ซึ่งจากสถิติพบว่าปัจจุบัน 100% ของประชาชนทั้งประเทศมีเพียง 10% เท่านั้น ที่หลังอายุ 60 ปี มีฐานะการเงินที่ดำรงชีวิตได้ อย่างไม่เดือดร้อน ส่วนอีก 30% มีเงินออมต่ำกว่า 100,000 บาท และอีก 60% ของประชากรทั้งประเทศ ไม่มีเงินออม ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จึงมีมาตรการเชิงรุกในการขั บเคลื่อนการส่งเสริมและปลูกฝั งแนวคิดเรื่องการออมควบคู่กั บการทำประกันภัย เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ ดีให้กับประชาชนอย่างยั่งยืนต่ อไป