ธนชาตประกันภัย รับข่าวดีส่งท้ายปีด้วยรางวัล “บริษัทประกันวินาศภัยที่มีการบริหารงานดีเด่น” การันตีความมั่นคงขององค์กร มีความแข็งแกร่งทางการเงินสูง ตลอดจนความเป็นมืออาชีพในการบริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี ดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม สร้างสรรค์หลากหลายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และพัฒนานวัตกรรมด้านบริการตอบโจทย์เข้าสู่ตลาดประกันภัยอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้ทุกรูปแบบและทันต่อความต้องการ ทำให้ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้ากว่า 1 ล้านราย ส่งให้ผลประกอบการ 8 เดือน มีเบี้ยรับรวมกว่า 6.6 พันล้านบาท เติบโต 24% คาดว่าทั้งปี 65 จะสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมได้ที่ 10,000 ล้านบาท
นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับรางวัล “บริษัทประกันวินาศภัยที่มีการบริหารงานดีเด่น อันดับที่ 2” จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ในงานมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร (Prime Minister’s Insurance Awards) ประจำปี 2565 ซึ่งรางวัลนี้ธนชาตประกันภัย ได้รับมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ในฐานะการเป็นบริษัทที่มีการบริหารงานอย่างมืออาชีพ มีศักยภาพการดำเนินงาน มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง และมีธรรมาภิบาลเป็นเลิศ ปัจจัยความสำเร็จที่ทำให้ธนชาตประกันภัยได้รับรางวัลบริษัทที่มีการบริหารงานดีเด่น และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า มาจากการที่บริษัทฯ มีความมั่นคงทางการเงินสูง โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินที่ระดับ “AA-” จากทริส เรทติ้ง มีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพการให้บริการ ส่งเสริมและพัฒนาตัวแทนและนายหน้าประกันภัย รวมถึงการให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่ถูกหลอกเสนอขายกรมธรรม์เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของธุรกิจประกันภัยวินาศภัย มีการปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจโดยพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการตอบสนองความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว จนสามารถรักษาความสามารถการแข่งขันในตลาดประกันภัยไว้ได้อย่างมั่นคง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ปี 2564 มีสัดส่วนการขายสูงถึง 84%
บริษัทฯ ได้พัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่อเนื่อง เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งการดำเนินชีวิตและค่าครองชีพที่สูงขึ้น จึงได้นำเสนอแบบประกันภัยที่คุ้มค่าช่วยลูกค้ารักษาสภาพคล่องทางการเงิน เช่น ประกันภัยรถยนต์ 2+ฟิต เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มครองหลักที่พอดีกับความเสี่ยงของตนเอง และประหยัดค่าใช้จ่ายไว้ใช้ยามจำเป็น มีค่าเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 6,500 บาท นอกจากนี้บริษัทฯ ได้พัฒนาประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล Happy PA for Child ประกันภัยนวัตกรรมใหม่ พัฒนาออกมาในรูปแบบไฮบริด ให้ความคุ้มครองทั้งอุบัติเหตุ และ 4 โรคที่เด็กเป็นบ่อย ทั้งไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ มือเท้าปาก และโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ RSV ซึ่งระบาดหนักในกลุ่มเด็กช่วงนี้ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัล PRODUCT INNOVATION AWARDS 2022 ประเภท ผลิตภัณฑ์ประกันอุบัติเหตุสำหรับเด็กด้วย
ด้านการพัฒนานวัตกรรมบริการ เพื่อก้าวสู่โลกดิจิทัลอย่างภาคภูมิใจ บริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยีมาพัฒนาขีดความสามารถของกระบวนการทำงานและรูปแบบการให้บริการให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ตรงใจมากที่สุด เช่น Line Official “ธนชาตประกันภัย” นวัตกรรมบริการที่บริษัทฯ พัฒนาเพื่อมุ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ภายใต้แนวคิด “ง่าย สะดวก รวดเร็ว” ในทุกจุดTouch Point ของทุก Lifestyle สามารถทำธุรกรรมทุกอย่างได้ผ่านไลน์ มีนโยบายการบริการหลังการขายด้วยการนำ Robotic Process Automation Technology (RPA) และสร้างระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligent: AI) เพื่อช่วยพัฒนางานสินไหมให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด มีบริการ Meet & Care บริการผู้ช่วยส่วนตัวดูแลรถของลูกค้า สามารถให้คำปรึกษาในรายละเอียดการนำรถเข้าซ่อมต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าหมดกังวลเมื่อต้องนำรถเข้าซ่อม การรายงานสถานะการซ่อม การตรวจสอบงานซ่อม และส่งมอบรถให้แก่ลูกค้า ซึ่งบริการทั้งหมดนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมกันนั้นลูกค้าได้รับการบริการจากอู่สีส้มและศูนย์บริการ ที่มีมาตรฐานพร้อมให้บริการลูกค้าอย่างทั่วถึง ครอบคลุมกว่า 1,600 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรมประกันภัย
นายพีระพัฒน์ กล่าวด้วยว่า รางวัลที่ได้รับจะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการเดินหน้าพัฒนางานบริการด้วยเทคโนโลยีและสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ประกันภัยและทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ด้านประกันภัยที่ดีที่สุด โดยปัจจุบัน บริษัทฯ ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่มอบความไว้วางใจให้คุ้มครองดูแลแล้วกว่า 1 ล้านราย ขณะที่ผลประกอบการในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา มีเบี้ยประกันภัยรวมกว่า 6,600 ล้านบาท เติบโต 24% และคาดว่าทั้งปี 2565 บริษัทจะสามารถสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมได้ที่ 10,000 ล้านบาทตามเป้าหมายอย่างแน่นอน