ในเดือนแห่งวันแม่ 12 สิงหาคม ทิพยประกันภัย จัดโครงการทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 43 พาครูอาจารย์ นักเรียน และผู้ที่สนใจ เยี่ยมชม “ฟาร์มของแม่” ณ โครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ หนองลาด จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของการพัฒนาแบบองค์รวม ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อเผยแพร่แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในเดือนแห่งการพระราชสมภพ
โครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ หนองลาด เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือราษฎรลูกหลานวีรชนค่ายบางระจัน ที่บรรพบุรุษได้สละชีพปกป้อง และทำคุณประโยชน์แก่แผ่นดินไว้ในอดีต โดยบริเวณโครงการครอบคลุมพื้นที่ 443 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่น้ำ 349 ไร่ และพื้นที่ดิน 94 ไร่ มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือ และพลิกฟื้นชีวิตเกษตรกรในพื้นที่ ช่วยแก้ไขปัญหาการว่างงาน ทั้งยังเป็นแหล่งผลิตอาหารของชุมชน และเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรที่สำคัญครอบคลุมการทำเกษตรแบบผสมผสานตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งการปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์ และการประมง
นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า “โครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ หนองลาด แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานความรู้จากหลากหลายศาสตร์ เพื่อสร้างระบบเกษตรที่ยั่งยืน ตลอดจนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ซึ่งเป็นแนวทางที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนชีวิตและอาชีพ โดยคำนึงถึงผลกระทบระยะยาว การเรียนรู้จากโครงการแห่งนี้ จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจถึงการปรับตัวและความยืดหยุ่นในการรับมือกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนชีวิตและอาชีพ” ในการเยี่ยมชมโครงการฯ ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติอาชีพที่สร้างรายได้หลากหลาย เริ่มจากการทำ “ปลาแดดเดียว” สูตรเฉพาะของโครงการฯ ที่ทำง่าย แต่มีศักยภาพทางการตลาดสูง ต่อด้วยการผลิต “แหนมเห็ด” ทางเลือกสุขภาพที่รสชาติอร่อย ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่สร้างรายได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตการผลิตน้ำด่างธรรมชาติจากขี้เถ้า ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีประโยชน์หลากหลายทั้งในครัวเรือนและการเกษตร โดยวิทยากรได้อธิบายวิธีการผลิต พร้อมแนะนำการใช้งานอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และกิจกรรมปิดท้ายด้วยการชมสาธิตการทอผ้า และปักผ้าโขนพระราชทาน งานศิลปะชั้นสูงที่สืบทอดมาแต่โบราณ ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้เทคนิคการทอและการปักที่ละเอียดและประณีต รวมถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่านี้ให้คงอยู่สืบไป
โครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ หนองลาด ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่หล่อหลอมแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืน สะท้อนให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงห่วงใยและพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรอย่างแท้จริง
นอกเหนือจากกิจกรรมภายในโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ คณะผู้เข้าร่วมยังได้เยี่ยมชมอุทยานและพิพิธภัณฑ์วีรชนค่ายบางระจัน แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญของจังหวัดสิงห์บุรี และเป็นสถานที่ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จมาประกอบพิธีเปิดอนุสาวรีย์ด้วยพระองค์เอง พร้อมกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้ และศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ความกล้าหาญของบรรพบุรุษชาวบ้านบางระจัน ผู้ลุกขึ้นต่อสู้กับกองทัพพม่าในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เป็นสัญลักษณ์ของความรักชาติ และความสามัคคี สร้างคุณประโยชน์มหาศาลแก่แผ่นดิน ซึ่งความรู้เหล่านี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการศึกษาและการบริหารจัดการในองค์กรต่าง ๆ ได้
นอกจากนี้ ทางโครงการฯ ยังมีกิจกรรม Workshop และการบรรยาย โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ อาทิ “9 ตามรอยนวัตกรรมของพ่อ ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนระดับสากล” ที่เป็นการถอดบทเรียนนวัตกรรมศาสตร์พระราชาในประเด็น “ศาสตร์พระราชากับนวัตกรรมแบบก้าวกระโดด” พร้อมสอดแทรกคุณธรรม 5 ประการ คือ พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา และกตัญญู และ “The King’s Journey Learn English an Example of an Invention” โดยอาจารย์อดุลย์ ดาราธรรม ที่ปรึกษาและอดีตนายกสมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย พร้อมทั้งการบรรยายเรื่อง “คุณธรรมในยุคดิจิทัล” โดย รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม และ “ถอดรหัสพระอัจฉริยะภาพในหลวงรัชกาลที่ 9” โดย ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อก้าวสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามนโยบาย UNSDG ภายในปี 2030
ทั้งนี้ ทางโครงการฯ ยังได้จัดกิจกรรมการกุศล เพื่อเสริมสร้างจิตสาธารณะ และความเสียสละเพื่อส่วนรวมด้วย เช่น กิจกรรมมอบหนังสือจากโครงการ “อ่านพลิกชีวิต” ของอมรินทร์กรุ๊ป พร้อมด้วยกิจกรรมมอบทุน และอุปกรณ์ทางการศึกษาจากมูลนิธิธรรมดี ให้กับโรงเรียนวัดโพธิ์ศรี จังหวัดสิงห์บุรี รวมไปถึงกิจกรรมปล่อยปลาเบญจพรรณจำนวน 590 กิโลกรัมสู่ธรรมชาติ เพื่อรักษาความสมดุล และเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติ ระบบนิเวศ และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
สำหรับโครงการ ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา จัดโดย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) คุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลพบุรี สมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย และมูลนิธิธรรมดี พร้อมด้วยการสนับสนุนหนังสือจากโครงการอมรินทร์อาสา “อ่านพลิกชีวิต” อมรินทร์กรุ๊ป สำหรับการจัดโครงการในครั้งต่อไปขอเชิญชวนครูอาจารย์ และผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ณ จังหวัดตาก ในวันที่ 14 – 15 กันยายน 2567 โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านจะได้รับประกาศนียบัตรจากทางโครงการฯ ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นหนึ่งในกิจกรรมการพัฒนาตนเองในการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาจากคุรุสภาได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ คุณจารุกัญญ์ โทรศัพท์ 099 397 5333 FB : ตามรอยพระราชา-The King’s Journey