ในไตรมาส 1 ปี 2565 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจำนวน 1,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีเบี้ยรับปีแรกเติบโตเพิ่มขึ้นในทุกช่องทาง จากเบี้ยประกันภัยรับ MRTA ที่เพิ่มขึ้นในช่องทางธนาคาร และการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกในช่องทางออนไลน์เป็นหลัก สำหรับเบี้ยรับประกันภัยรวมในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวมจำนวน 9,071 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีกรมธรรม์ที่ครบกำหนดชำระเบี้ยในช่องทางธนาคารในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 นี้ อย่างไรก็ตามบริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากไตรมาสที่แล้ว
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 จำนวน 346,640 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2564 ที่ร้อยละ 0.1 โดยสินทรัพย์ลงทุนมีสัดส่วนร้อยละ 95 ของสินทรัพย์รวม ในไตรมาสนี้บริษัทมีกำไรสุทธิ 801 ล้านบาท ทางด้านความมั่นคงของฐานะทางการเงิน บริษัทมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio – CAR ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2565 ที่ระดับร้อยละ 329 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล ที่ส่งผลให้มูลค่าเงินกองทุนของกิจการเพิ่มขึ้น บริษัทได้กำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจใน 3 ปี คือ ปี 2565-2567 ในการเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันของบริษัทเพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนผ่าน 5 มิติหลัก ได้แก่ มิติด้านสุขภาพ ที่เน้นการให้บริการด้านสุขภาพที่เป็นเลิศ มิติด้านความมั่งคั่ง ที่เน้นตอบความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มโดยเฉพาะแบบประกันประเภทสะสมทรัพย์และประกันควบการลงทุน มิติด้านดิจิทัลที่รองรับการก้าวสู่สังคมดิจิทัลในอนาคต ด้านช่องทางการขาย ที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพของช่องทางและเน้นการขยายช่องทางเพื่อให้ครอบคลุมโอกาสทางการตลาด และมิติด้านความรับผิดต่อสังคมสิ่งแวดล้อม
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 นี้ บริษัททำการตลาดในช่องทางจำหน่ายแต่ละช่องทาง โดยในช่องทางธนาคาร บริษัททำการตลาดผ่านแบบประกันสะสมทรัพย์ เกนเฟิสต์ ซิมเพิล (Gain1st Simple) ในส่วนของช่องตัวแทนจำหน่าย บริษัทได้เปิดตัวแบบประกันสุขภาพใหม่ แวลู เฮลธ์ (Value Health) แผนความคุ้มครองด้านสุขภาพแบบเหมาจ่าย เพื่อความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่ และได้เปิดตัวแบบประกัน แวลู เฮลธ์ คิดส์ (Value Health Kids) สำหรับเด็กด้วย บริษัทยังได้เสริมบริการด้านสุขภาพเพื่อครอบคลุมความต้องการในการดูแลสุขภาพของผู้ทำประกันสุขภาพ ผ่านบริการเสริมด้านสุขภาพภายใต้โครงการ BLA Every Care ของกรุงเทพประกันชีวิตให้แข็งแกร่งครบวงจร รองรับความต้องการและดูแลลูกค้าได้อย่างเต็มศักยภาพ และในช่วงสถานการณ์โควิดรุนแรง กรุงเทพประกันชีวิตได้เปิดโครงการ Care@Home เพื่อให้บริการลูกค้ากรุงเทพประกันชีวิตทุกคน พร้อมบริการติดตามอาการจากทีมแพทย์และพยาบาลจากศูนย์บริการทางการแพทย์กรุงเทพประกันชีวิตพร้อมช่วยเหลือหากลูกค้ามีความจำเป็นต้องได้รับการดูแลเพิ่มเติม รวมทั้งการจัดส่งชุดกักตัวอุ่นใจ และสิทธิการรักษาทางไกล (Telemedicine) นอกเหนือจากความคุ้มครองในกรมธรรม์ที่ลูกค้ามีอยู่
บริษัทได้มุ่งส่งเสริมการก้าวสู่สังคมไร้เงินสดและลดการใช้ทรัพยากรผ่านโครงการ “ร่วมลดได้ลุ้น 70ปี กรุงเทพประกันชีวิต” สำหรับลูกค้าที่ทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยแคมเปญ ร่วมลดได้ลุ้น จะดำเนินการไปจนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2565 รวมทั้งบริษัทยังคงให้ความสำคัญในการสร้างและพัฒนาตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน ผ่านโครงการรับรองรายได้ผู้บริหารตัวแทนมืออาชีพ (Smart Leader) เพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพทีมงานขายอย่างมั่นคงและยั่งยืน และร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ด้านแผนการลงทุนคู่ความคุ้มครองผ่านที่ปรึกษาการเงินของบริษัท เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านการเงินให้ประชาชนทุกกลุ่ม