วันนี้ (22 พ.ค. 63) เวลา 13.30 น. ที่ห้องรับรองชั้น 9 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถนนกรุงเกษม สะพานขาว กรุงเทพฯ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) มอบรางวัลผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2563 แก่อาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) ประจำปีพุทธศักราช 2536 โดยมี นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ และคณะอนุกรรมการสรรหาผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคมร่วมแสดงความยินดีนายจุติ กล่าวว่า ด้วย เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2525 คณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 13 เมษายนของทุกปีเป็น “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” และให้มีการจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติเป็นประจำทุกปี ด้วยความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และประชาชน เพื่อตระหนักและเห็นคุณค่าความสำคัญของผู้สูงอายุในการพัฒนาประเทศ แต่ขณะนี้ ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โรคโควิด-19) กระทรวง พม. จึงได้งดการจัดงานผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2563 แต่ยังคงมีการสรรหาผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม ประจำปี 2563 ซึ่งอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) ประจำปีพุทธศักราช 2536 ได้รับรางวัลผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2563 โดยคณะอนุกรรมการสรรหาผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม ในคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ
ซึ่งมีกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวง พม. เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ พิจารณาหลักเกณฑ์สำคัญ อาทิ เป็นผู้ที่มีอายุไม่น้อยกว่า 75 ปี ประพฤติดี มีคุณธรรม จริยธรรม ยึดมั่น และเทิดทูนในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มีสุขภาพดี ทั้งด้านกาย จิต ปัญญา และสังคม ประกอบกิจการงานอันเกิดประโยชน์ต่อตนเอง ผู้อื่น และสังคม อย่างต่อเนื่อง มีการดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่างที่ดี โดยเฉพาะในช่วงอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมและเป็นตัวอย่างแก่สาธารณชน เป็นต้น
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนขอแสดงความยินดีกับอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ ที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติได้ลงมติเอกฉันท์ นับเป็นผู้ที่สมควรได้รับเกียรติเป็นผู้สูงวัยประจำปี 2563 ซึ่งวันนี้ ประเทศไทยดีขึ้นอีกวันหนึ่ง เพราะความงามและความดีที่ท่านได้บัญญัติไว้ในบทกลอน ทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความสำคัญของมรดกและวัฒนธรรมไทย คือ ภาษาไทย ที่ยิ่งนับวันนักกวีภาษาไทยจะหายากและลดน้อยลงไปทุกที ซึ่งเราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ให้กำลังใจคนรุ่นต่อไปว่ามรดกและวัฒนธรรมไทยยังคงอยู่ และจิตวิญญาณของความเป็นไทยก็คือภาษาไทย ซึ่งประเทศเรามีภาษาเป็นของตนเอง จึงอยากให้ทุกคนคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ไว้ว่าคนไทยเราโชคดีมาก
ด้านอาจารย์เนาวรัตน์ กล่าวว่า ขอขอบคุณกระทรวง พม. และท่านรัฐมนตรี ที่ให้เกียรติตนในฐานะผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2563 ซึ่งไม่เคยได้คาดหมายมาก่อน เพราะตนมีความสนใจเรื่องภาษาไทยที่เป็นสื่อของความคิดและสื่ออักษร อีกทั้งไม่เคยทิ้งภาษาไทย ไม่ว่าจะไปทำอะไรก็ตาม เพราะเป็นสิ่งที่เราชอบและทำให้ชีวิตเรามีความสุขและมีคุณค่า ฉะนั้น จึงขอฝากไว้ว่าอย่ากำหนดกฎเกณฑ์ในการการพัฒนาชีวิตให้กับเด็ก ขอให้เด็กได้พัฒนาไปตามธรรมชาติ และได้เติบโต ด้วยการรู้จักว่าชีวิตคืออะไร หากเด็กได้พัฒนาสิ่งเหล่านี้ จะทำให้ชีวิตของพวกเขามีความสุข