วันนี้ (12 ก.พ.63) เวลา 11.00 น.
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.)
เป็นประธานในพิธีมอบโล่พร้อมกล่าวแสดงความยินดีแก่สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐาน ประจำปี 2562 ระดับดีเด่น จำนวน 25 สมาคม ในงาน “สัมมนาเพิ่มประสิทธิภาพสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ลูกค้า ธ.ก.ส.”
ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ร่วมกับธนาคาร
เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดขึ้น เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและเชิดชูเกียรติให้กับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์
ที่ได้รับรางวัล โดยมีนางสาวอุษณี กังวารจิตต์ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กล่าวรายงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวง พม. และ ธ.ก.ส. นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ของ ธ.ก.ส. และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสิ้น 600 คน เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
นายจุติ กล่าวว่า สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ได้ดำเนินกิจการตาม พ.ร.บ.การฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 อันเป็นเจตนารมณ์ของบุคคลหลายคนที่ตกลงเข้าร่วมกัน เพื่อการสงเคราะห์ซึ่งกันและกันในการจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัว ซึ่งถึงแก่ความตาย โดยมิได้ประสงค์จะหากำไรหรือรายได้เพื่อแบ่งปันกัน ปัจจุบันมีสมาคมทั่วประเทศที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ 1,048 สมาคม และมีสมาชิกรวมทั้งหมด 7,004,190 คน ทั้งนี้ กระทรวง พม. โดย สค. ในฐานะนายทะเบียนกลางสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ได้แต่งตั้งคณะทำงานพัฒนาศักยภาพสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ และได้จัดทำมาตรฐานสมาคมฯ โดยให้อยู่ในสังกัดของ ธ.ก.ส. เป็นสมาคมฯ ต้นแบบที่มีภาพลักษณ์ที่ดี อีกทั้งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินมาตรฐานสมาคมฯ เพื่อประเมินผลการดำเนินงาน ซึ่งปรากฏว่า สมาคมได้ผ่านการประเมินมาตรฐานจำนวนทั้งสิ้น 533 สมาคม แบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้ 1) สมาคมระดับดีเด่น 25 สมาคม 2) สมาคมระดับดีมาก 65 สมาคม และ 3) สมาคมระดับดี 443 สมาคม
นายจุติ กล่าวต่ออีกว่า ขอชื่นชมในความพยายามและความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกสมาคมในการพัฒนาองค์กรให้เป็นไป
ตามเกณฑ์มาตรฐาน และขอแสดงความยินดีกับสมาคมที่ผ่านการประเมินมาตรฐาน ซึ่งเป็นการยืนยันถึงผลสำเร็จ โดยขอให้ ทุกสมาคมดำเนินกิจการโดยยึดหลักการทางกฎหมายเป็นสำคัญ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกในด้านการบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์แก่สมาชิกโดยรวม อีกทั้งขอเป็นกำลังใจให้กับคณะกรรมการบริหารกิจการทุกสมาคม ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพ มีความเสียสละ อุทิศตนในการทำงาน มีจริยธรรม และยึดถือความถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนผู้เป็นสมาชิกได้รับประโยชน์ มีหลักประกันความมั่นคงของครอบครัว เมื่อสมาชิกในครอบครัวถึงแก่ความตาย ซึ่งถือได้ว่าเป็นหลักประกันการตายที่เกิดจาก ความร่วมมือร่วมใจของสมาชิกที่เป็นภาคประชาชน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังตามนโยบายของรัฐบาล
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน และเป็นแรงผลักดันให้มี ความมุ่งมั่นที่จะพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งขยายผลให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงแนวทางการปฏิบัติที่ดีสู่สมาคมอื่น ๆ ทั้งนี้ ขอให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ทั้งระดับดีเด่น ระดับดีมาก และระดับดี รักษาคุณภาพมาตรฐานให้ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง และ เป็นต้นแบบที่ดีต่อไป