นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนนำคณะข้าราชการกรม ฯ ร่วมงาน “พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก (Energy Drive Ecosystem)” พร้อมแสดงเจตนารมณ์ความร่วมมือการศึกษาศาสตร์พระราชาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่เป้าหมายความยั่งยืนโลก และร่วมเสวนาในหัวข้อ ‘เป้าหมายโลกคือเป้าหมายเราด้วยศาสตร์พระราชา” โดยมีนายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธานในพิธีเปิดงาน ณ บริเวณเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก
ซึ่งในช่วงเช้ามีการแสดงพลังแห่งความร่วมมือจากทุกภาค ทุกเครือข่ายด้วยกิจกรรมโบกธงแสดงเจตนารมณ์สืบสานศาสตร์พระราชาเนื่องในวันดินโลก ณ บริเวณสันเขื่อนภูมิพล
จากนั้น นำคณะ ฯ ร่วมพิธีเปิดงานและร่วมแสดงเจตนารมณ์ความร่วมมือในการสืบสานศาสตร์พระราชาของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่เป้าหมายความยั่งยืนโลก ระหว่าง 6 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมการพัฒนาชุมชน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ มูลนิธิรักษ์ดินรักษ์น้ำ Earth Safe Foundation ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กระทรวงพลังงาน ภายใต้กรอบระยะเวลา 3 ปี เป็นการแสดงถึงความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานหลายภาคส่วน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานที่มุ่งแก้ปัญหาใน 3 ประเด็นหลัก คือ น้ำ อาหาร และพลังงาน เพื่อสร้างความมั่นคงตามเป้าหมายความยั่งยืนโลก (SDGs) โดยเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นและประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนและเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เข้มแข็งต่อไป
โดยการจัดงานดังกล่าว นับเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานหลายภาคส่วนทั้งชุมชนและหน่วยงานราชการภาคเอกชน ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การขยายความร่วมมือในทุกภาคีเครือข่ายต่อไปโดยการน้อมนำศาสตร์พระราชาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้กับชุมชนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย โดยการบูรณาการแนวคิดเพื่อแก้ปัญหาพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนบริหารจัดการพื้นที่แบบโคกหนองนาโมเดลเพื่อพัฒนาน้ำ อาหาร และพลังงาน ซึ่งเป็นปัจจัยจำเป็นพื้นฐานของมนุษย์และเป็นการใช้พื้นที่ของชุมชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ซึ่งหลังจากพิธีเปิดอย่างเป็นทางการได้มีการเสวนาในหัวข้อ “เป้าหมายโลกคือเป้าหมายเราด้วยศาสตร์พระราชา” โดยผู้ทรงคุณวุฒิจาก 4 ภาคีเครือข่ายได้แก่ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และที่ปรึกษามูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน รศ.ดร.สุรินทร์ คำฝอย รองอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และนายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์กฟผ. ซึ่งได้บรรยายถึงความสำคัญพร้อมผลักดันประชาชนให้ร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนาชุมชนสู่เป้าหมายความยั่งยืนระดับโลก
ทั้งนี้ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้กล่าวในเวทีเสวนาว่า ความร่วมมือครั้งนี้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของกรมการพัฒนาชุมชนที่ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการทำงาน ‘เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง และชุมชนพึ่งตนเองได้ภายในปี 2565’ โดยการขับเคลื่อนงานสู่วิสัยทัศน์นั้น ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทาง
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2563 ได้ดำเนินการ 2 โครงการหลัก คือ โครงการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนท้องถิ่นตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 74,655 หมู่บ้าน มุ่งเน้นหน่วยสำคัญที่สุดคือระดับครัวเรือน มีการส่งเสริมให้ครัวเรือนสร้างความมั่นคงทางอาหาร สร้างสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน และสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม โดยมีกิจกรรมย่อย อาทิ กิจกรรมหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมหมู่บ้านโครงการบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง กิจกรรมหมู่บ้านสัมมาชีพชุมชน กิจกรรมพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเราต้องทำทันที โดยหวัง 70% ของครัวเรือน จะปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ มีไข่อารมณ์ดี มีการจัดการคัดแยกขยะ มีการทำปุ๋ยหมัก เป็นต้น
นอกจากนี้ กรมฯ ยังสร้าง/พัฒนา “ศูนย์เรียนรู้ศาสตร์พระราชาน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่วิถีชีวิต” ด้วยการยกระดับศูนย์บ่มเพาะอาชีพตามแนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้เป็นศูนย์เรียนรู้อาชีพ แก่ข้าราชการและประชาชนทั่วไปในพื้นที่ของกรมการพัฒนาชุมชน จำนวน 18 แห่ง เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ และอยากเห็นคนที่จะเป็นผู้นำหัวไวใจกล้าพัฒนาทำพื้นที่ให้เหมือนอย่าง เช่น โคก หนอง นา โมเดลในพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งจะสำเร็จได้ง่ายเพราะมีภาคีอย่างเช่นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่พร้อมจะร่วมขับเคลื่อน