นายวีรศักดิ์ บุญเชิญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในปี 2567 กรมส่งเสริมการเกษตรเน้นขับเคลื่ อนงานถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร ส่งเสริมการผลิตสินค้ าเกษตรของเกษตรกรให้มีคุณภาพได้ มาตรฐาน เพื่อเพิ่มขี ดความสามารถในการแข่งขันของสิ นค้าเกษตร และเพิ่มรายได้ของเกษตรกร ตลอดจนดูแลคุณภาพชีวิ ตของเกษตรกร โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ ที่มีจุดเด่นในการผลักดันให้ เกษตรกรสมาชิกได้ร่วมกันการบริ หารจัดการ ทั้งในด้านการจัดหาปัจจัยการผลิ ตที่มีคุณภาพดี ราคาถูก และการใช้เทคโนโลยีการเกษตรที่ เหมาะสม เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้ าเกษตร ตลอดจนการจัดการด้านการตลาด ช่วยพัฒนาเกษตรกรให้มีคุณภาพชี วิตดีขึ้น มีการพัฒนาเชิงพื้นที่ตามศั กยภาพ สู่การพัฒนาคุณภาพสินค้ าเกษตรตามความต้องการตลาด โดยการดำเนินงานยึดพื้นที่เป็ นหลัก บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ ยวข้อง และมีผู้จัดการแปลงเป็นผู้บริ หารจัดการพื้นที่ในทุกกิจกรรม ตลอดห่วงโซ่อุปทาน
สำหรับผลจากการดำเนินงานที่ผ่ านมาพบว่า ตั้งแต่ปี 2559 – 2567 มีแปลงใหญ่ที่ขึ้นทะเบี ยนจำนวนทั้งสิ้น 10,695 แปลง เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 570,922 ราย พื้นที่ 9.01 ล้านไร่ เกษตรกรมีการรั บรองมาตรฐานการผลิตสินค้ าเกษตรรวม 198,217 ราย ส่งผลให้เกิดมูลค่าเพิ่ มจากการดำเนินงานสะสม 7 ปี จากการลดต้นทุนการผลิต จำนวน 37,300.58 ล้านบาท การเพิ่มผลผลิต จำนวน 65,871.18 ล้าน รวมทั้งสิ้น 103,171.76 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2567)
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มี นโยบายให้มีการถ่ายโอนภารกิจผู้ จัดการแปลงให้กับผู้แทนกลุ่ มเกษตรแปลงใหญ่ที่จัดตั้งเป็นปี ที่ 3 เพื่อให้มีการบริหารจัดการร่ วมกัน และให้เกษตรกรเป็นศูนย์ กลางในการดำเนินงาน ผลักดันให้เกษตรกรรวมกลุ่ มในการผลิตเพื่อร่วมกันจัดหาปั จจัยการผลิตที่มีคุณภาพดี ราคาถูก และการใช้เทคโนโลยีการเกษตรที่ เหมาะสม เช่น เครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้ าการเกษตร ตลอดจนการจัดการด้านการตลาด โดยหน่วยงานภาครัฐให้การสนับสนุ น และอำนวยความสะดวก จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับผู้จั ดการแปลงใหญ่ให้เป็นไปในทิ ศทางเดียวกัน กรมส่งเสริมการเกษตรจึงดำเนิ นการโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติ การการพัฒนาเกษตรกรเป็นผู้จั ดการแปลง ตามแผนปฏิบัติงานโครงการระบบส่ งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2567 ขึ้น เพื่อพัฒนาผู้แทนของกลุ่ มเกษตรแปลงใหญ่ ปี 2565 (จัดตั้งเป็นแปลงใหญ่ปีที่ 3) จำนวน 767 แปลง ให้สามารถทำหน้าที่เป็นผู้จั ดการแปลง มีศักยภาพในการวิเคราะห์ วางแผน บริหารจัดการกลุ่ม การผลิต การตลาด และทุกๆ กิจกรรมตลอดห่วงโซ่อุปทาน อีกทั้งสร้างทัศนคติเชิ งบวกในการพัฒนาแปลงใหญ่ รวมถึงการสร้างเครือข่ายผู้จั ดการแปลงใหญ่เพื่อพัฒนาแปลงใหญ่
“หวังว่าการอบรมผู้จั ดการแปลงจะสามารถพัฒนากลุ่ มเกษตรกรแปลงใหญ่ให้มีประสิทธิ ภาพการผลิตพัฒนาสินค้าให้มีคุ ณภาพได้มาตรฐาน สู่อัตลักษณ์ เกษตรอินทรีย์ เกษตรชีวภาพ และมูลค่าสูง สามารถวัดผลสัมฤทธิ์ได้อย่างเป็ นรูปธรรม ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการแข่ งขันให้กับสินค้าเกษตรได้ ในโอกาสต่อไป เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้ น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว