EXIM BANK ออก “สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน” ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี ดอกเบี้ยต่ำสุด 2.75% ต่อปี ช่วยให้กิจการส่งออกและธุรกิจเกี่ยวเนื่องมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะรักษาการจ้างงาน แรงงานมีรายได้เลี้ยงชีพและอยู่ในระบบประกันสังคมต่อไป
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบซ้ำเติมภาคธุรกิจมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 ที่ผ่านมา ทำให้หลายกิจการขาดสภาพคล่องจนนำไปสู่การลดหรือเลิกจ้างแรงงาน EXIM BANK จึงเข้าร่วม “โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ระยะที่ 2” ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท เพื่อให้สถานประกอบการนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ สามารถรักษาการจ้างงานไว้ได้ ช่วยให้ผู้ประกันตนมีงานทำต่อเนื่องและอยู่ในระบบประกันสังคมได้ต่อไป
“สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน” เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่กิจการส่งออกและธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ขึ้นทะเบียนกับ สปส. วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินกู้ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ ต่ำสุด 2.75% ต่อปี กรณีมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และเงินกู้ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.75% ต่อปีใน 3 ปีแรก จากนั้นเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด สามารถใช้หนังสือค้ำประกันของบรรษัทสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นหลักประกันร่วมได้ ขอรับบริการได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 ธันวาคม 2564 สอบถามได้ที่ EXIM HOTLINE เพื่อช่วยเหลือลูกค้าและผู้ประกอบการจากโควิด-19 โทร. 0 2037 6099
“EXIM BANK ติดตามสถานการณ์และผลกระทบต่อลูกค้าและผู้ประกอบการในธุรกิจส่งออกและธุรกิจเกี่ยวเนื่องอย่างใกล้ชิด เพื่อออกมาตรการรองรับและช่วยเหลือเยียวยา พยุงให้กิจการดำเนินต่อไปได้ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในภาคแรงงาน ให้มีกำลังเลี้ยงตนเองและครอบครัว ไม่เพิ่มปัญหาหนี้สินครัวเรือน พร้อมรับโอกาสใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่อภาคการส่งออกและเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวในระยะถัดไป” ดร.รักษ์ กล่าว