ธนาคารไทยพาณิชย์ มุ่งมั่นเดินหน้าเคียงข้างและให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย (SME) อย่างต่อเนื่องผ่านมาตรการช่วยเหลือด้านต่าง ๆ และเพื่อเป็นการช่วยเหลือให้ธุรกิจของลูกค้าสามารถปรับตัวและเตรียมพร้อมที่จะเดินหน้าอีกครั้งหลังโควิดคลี่คลาย ล่าสุดจึงได้พัฒนา “มณี Business Booster” เครื่องมือออนไลน์ช่วยผู้ประกอบการประเมินความพร้อมและค้นหาส่วนผสมทางธุรกิจที่ลงตัว มาพร้อมโซลูชันครอบคลุม 3 แกนหลัก ได้แก่ ลดรายจ่าย เพิ่มยอดขาย และขยายกิจการ เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเดินหน้าทำธุรกิจรับวิถีใหม่และไปต่อได้ในระยะยา
นางสาวอรรัตน์ ชุติมิต รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Retail and Business Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคธุรกิจ ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาหลายธุรกิจต้องหยุดชะงัก ขาดสภาพคล่อง เจ้าของธุรกิจต่างพยายามลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และพยายามปรับรูปแบบธุรกิจของตนเพื่อให้อยู่รอดและผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ ช่องทางออนไลน์กลายมาเป็นช่องทางหลักในการจำหน่ายสินค้า เราเห็นการเปลี่ยนผ่านของลูกค้าที่หันมาใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น โดยเฉพาะการทำธุรกรรมการเงินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโอนเงิน ชำระค่าสินค้าและบริการล้วนทำผ่านโมบายแบงก์กิ้ง เพราะผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการสัมผัสเงินสด ดังนั้น หลังวิกฤตโควิด-19 ผ่านพ้นไป เราจะเห็นภาพโครงสร้างทางเศรษฐกิจ พฤติกรรมผู้บริโภค ตลอดจนรูปแบบการทำธุรกิจที่เปลี่ยนไป และอาจมี New Normal เกิดขึ้น”
“ธุรกิจ SME มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพราะถือเป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่มีจำนวนมากที่สุดกว่า 3 ล้านราย เป็นแหล่งจ้างงานขนาดใหญ่ที่สุดในสัดส่วนสูงถึง 82% ของแรงงานทั้งหมด ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงทำให้การดำเนินธุรกิจ มีผลกระทบโดยตรงต่อการจ้างงานและรายได้ของครัวเรือนจำนวนมาก ธนาคารเล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้ประกอบการรายย่อย และมุ่งมั่นเคียงข้างให้การสนับสนุนเจ้าของกิจการและผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถผ่านช่วงเวลายากลำบากนี้ไปได้ และพร้อมรับวิถีใหม่ทางธุรกิจที่เกิดขึ้น จึงได้คิดค้นและพัฒนาเครื่องมือที่เรียกว่า “มณี Business Booster” ขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถประเมินความพร้อม ค้นหาส่วนผสมทางธุรกิจที่ลงตัว และโซลูชันทางการเงินที่เหมาะสมกับธุรกิจของตน”
“มณี Business Booster” เครื่องมือออนไลน์ช่วยค้นหาส่วนผสมธุรกิจที่ลงตัวและโซลูชันที่เหมาะสมกับธุรกิจ สามารถเข้าใช้งานผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ ง่าย ๆ ไม่กี่ขั้นตอน เพียงให้ข้อมูลธุรกิจผ่านเว็บไซต์ www.scb.co.th/maneebizbooster ระบบจะทำการประมวลผลเพื่อแนะนำโซลูชันแบบ personalized สำหรับธุรกิจ จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญติดต่อกลับเพื่อเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำแบบตรงจุด รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจระดับประเทศที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจในทุก ๆ ด้าน
นอกจากนี้ “มณี Business Booster” ยังมาพร้อมกับโซลูชันครอบคลุม 3 แกนหลัก ได้แก่
- ลดรายจ่าย:
- มณี Free Solution ฟรี! ค่าธรรมเนียมทุกประเภทเมื่อทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลแพลตฟอร์ม
- บัญชีมณีมั่งคั่ง บัญชีกระแสรายวัน ดอกเบี้ยสูงสุด 1% รับดอกเบี้ยทุกสิ้นเดือน เมื่อฝากตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
- เพิ่มยอดขาย:
- แอปพลิเคชันแม่มณี QR Code ที่ให้ร้านค้าสามารถรับเงินง่ายผ่าน QR Code ช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสเงินสด
- บริการ Google My Business ตัวช่วยที่ทำให้ค้นหาร้านค้าง่าย ค้าขายดี มีตัวตนบนโลกออนไลน์
- Robinhood ฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มอีกหนึ่งทางเลือกในการเพิ่มช่องทางการขายของผู้ประกอบการร้านอาหาร ไม่มีค่าจีพี สมัครฟรี เจ้าของร้านได้เงินเร็วภายใน 1 ชั่วโมง
- ขยายกิจการ:
- สินเชื่อมณีทันใจ อนุมัติและรับเงินผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY เพื่อเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนสำหรับต่อยอดทางธุรกิจ
“นอกจากนี้ “มณี Business Booster” ยังเป็นศูนย์รวมคู่ค้าเกือบ 30 ราย สำหรับผู้ประกอบการที่มองหาดีลทางธุรกิจดี ๆ สิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่สามารถช่วยให้ทำธุรกิจง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ที่ เปรียบเสมือนผู้ช่วยเสริมพลังทางธุรกิจ เช่น แหล่งรวมคอร์สการตลาดออนไลน์, ระบบการจัดการดูแลร้านค้า, แพคแกจ บรรจุภัณฑ์ หรือการส่งสินค้า เป็นต้น ธนาคารคาดว่า “มณี Business Booster” จะสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการ SME ประเมินความพร้อมและค้นหาส่วนผสมทางธุรกิจที่ลงตัว เพื่อเตรียมรับกับการทำธุรกิจวิถีใหม่และนำพาธุรกิจของตนไปต่อได้ในระยะยาว” นางสาวอรรัตน์ กล่าวเสริม