กรุงเทพฯ: ธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ในไตรมาส 2 ของปี 2564 จำนวน 8,815 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองมีจำนวน 21,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลของการขยายฐานรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและการปรับตัวลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของธนาคาร สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2564 ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 18,902 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาส 2 ของปี 2564 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 23,475 ล้านบาท ลดลง 1.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ภายใต้สภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำในปัจจุบันและการมุ่งเน้นการเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพ
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 12,994 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.0% จากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลของการขยายฐานรายได้ประเภทที่เกิดขึ้นเป็นประจำ (recurring) จากธุรกิจการขายผลิตภัณฑ์ประกันผ่านธนาคารและธุรกิจการบริหารความมั่งคั่ง ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีจำนวน 15,376 ล้านบาท ลดลง 4.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการปรับตัวลดลงของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ของธนาคารในไตรมาส 2 ของปี 2564 ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 42.2%
จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ธนาคารได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 10,028 ล้านบาท สำหรับไตรมาส 2 ของปี 2564 และเป็นจำนวน 20,036 ล้านบาท สำหรับครึ่งปีแรก อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 ทรงตัวจากไตรมาสที่ผ่านมา ที่ 3.79% สะท้อนถึงการบริหารจัดการสินเชื่อด้อยคุณภาพเชิงรุกของธนาคาร อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารยังอยู่ในระดับสูงที่ 142.3% ในขณะที่เงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 17.9%
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริ