นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้สั่งการให้ธนาคารออมสินเพิ่มมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของลูกหนี้กลุ่มครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นไปตามแนวนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือของหลายหน่วยงาน อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และสถาบันการเงินต่าง ๆ ตามที่ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันแล้วนั้น
ล่าสุดธนาคารออมสิน ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมตามข้อสั่งการของรัฐบาล ประกาศลดดอกเบี้ยสินเชื่อกลุ่มครูเป็น 1% ต่อปี สำหรับลูกหนี้ผ่อนชำระดีของสินเชื่อโครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิก ช.พ.ค. – ช.พ.ส. และโครงการเกื้อกูลผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา เป็นระยะเวลา 6 เดือน (ก.ค. – ธ.ค. 2567) โดยเป็นการลดดอกเบี้ยอัตโนมัติไม่ต้องลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ และดอกเบี้ยส่วนที่ได้ลดเพิ่มเติมจะถูกนำไปตัดเงินต้นทำให้หมดหนี้เร็วขึ้น ทั้งนี้ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกหนี้กลุ่มครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นลูกหนี้ประวัติการผ่อนชำระดี มีสถานะลูกหนี้ปกติ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ธนาคารได้ปรับลดดอกเบี้ยของแต่ละโครงการลง 0.5%, 0.75% และ 1% ต่อปีตามเงื่อนไข โดยคาดว่าจะมีลูกหนี้ได้รับประโยชน์จากการปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ จำนวนกว่า 230,000 ราย และลดดอกเบี้ยรวมปีละ 1,600 ล้านบาท
อนึ่ง ธนาคารออมสิน เป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหาหนี้ครูผ่านโครงการต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2542 อาทิ โครงการจัดหาแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้แบบเบ็ดเสร็จ โดยการรวมหนี้ข้าราชการครูทั้งหมดมาอยู่ที่ธนาคารออมสินเพียงแห่งเดียว ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อบุคคลทั่วไปตามนโยบายรัฐ และไม่ได้มีการให้สินเชื่อสวัสดิการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพิ่มอีกตั้งแต่ปี 2558 แต่เน้นดำเนินการแก้ไขหนี้อย่างยั่งยืนแก่ลูกหนี้ อาทิ มาตรการ 4 ไม่ (ไม่ฟ้องแพ่ง ไม่บังคับ ไม่ยึดทรัพย์ ไม่ขายทอดตลาด) และการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการครูเพื่อนำเงินไปรีไฟแนนซ์สินเชื่อครูที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงจากสถาบันการเงินอื่น เป็นต้น