กรุงเทพฯ, – ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในงาน Asian Banking & Finance (ABF) Awards 2024 คว้า 4 รางวัลอันทรงเกียรติ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเป็นธนาคารชั้นนำที่ให้ความสำคัญทั้งต่อพนักงานและลูกค้า รางวัลประกอบด้วย: “รางวัลนายจ้างดีเด่นแห่งปี (เหรียญทอง)” “ธนาคารเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีแห่งปีในประเทศไทย” “ธนาคารเพื่อความยั่งยืนแห่งปีในประเทศไทย” และ“ธนาคารต่างชาติเพื่อลูกค้ารายย่อยแห่งปีในประเทศไทย”
รางวัลนายจ้างดีเด่นแห่งปี (เหรียญทอง) จากความมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ในการทำงานที่ยอดเยี่ยมสำหรับพนักงาน
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เป็นองค์กรที่มีวัฒนกรรมการยกย่องชื่นชมคนทำงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นผ่านนโนบาย หลักเกณฑ์ในการทำงาน และกิจกรรมต่างๆที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ยกระดับสิทธิประโยชน์ของพนักงานเพื่อตอบแทนความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงาน และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของพนักงานที่แตกต่างกันให้ดียิ่งขึ้น อาทิ:
- เพิ่มวันลาคลอดบุตรจาก 45 เป็น 112 วัน
- วันลาสำหรับคุณพ่อ โดยให้พ่อสามารถลางานโดยได้รับค่าจ้างได้สูงสุด 10 วัน
- เพิ่มรางวัลอายุงาน เป็นเงินพิเศษตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ขึ้นอยู่กับอายุงาน
- ปรับเพิ่มวงเงินสินเชื่อพนักงาน ได้แก่ สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อต่อเติมบ้าน และสินเชื่อรถยนต์
- โครงการ Happy Retirement เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานที่เตรียมเกษียณในแต่ละปี จะสามารถวางแผนการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขหลังเกษียณ ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การออกกำลังกายอย่างถูกวิธี การทำสมาธิ การสร้างรายได้จากงานอดิเรก การเข้าสังคมผ่านชุมชนออนไลน์ของผู้เกษียณอายุ การจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และข้อมูลกองทุนที่เหมาะสม
รางวัลธนาคารเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีแห่งปีในประเทศไทยจากการส่งเสริมสุขภาพทุกด้านของพนักงาน
ธนาคารสนับสนุนการทำงานแบบผสมผสาน คือพนักงานสามารถทำงานที่ออฟฟิศ 3 วันและจากที่อื่นๆภายนอกออฟฟิศ 2 วันต่อสัปดาห์ เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว ธนาคารยังมีโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพครอบคลุม 6 ด้านหลัก ได้แก่ สุขภาพจิต สุขภาพกาย การเงิน การพัฒนาอาชีพ ความรู้ และการเข้าสังคม นอกจากนี้ ยูโอบียังให้ความสำคัญกับความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการยอมรับซึ่งกันและกัน ผ่านโปรแกรม และกิจกรรมหลากหลายรูปแบบตลอดทั้งปี
รางวัลธนาคารเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีแห่งปีในประเทศไทยจากการช่วยให้องค์กรต่างๆ เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อความยั่งยืนได้ง่ายขึ้น
ธนาคารได้พัฒนากรอบแนวคิดการเข้าถึงเงินทุนที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทุกอุตสาหกรรมมีโอกาสและความท้าทายที่แตกต่างกัน เราจึงสร้างกรอบการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนตามภาคอุตสาหกรรม กรอบแนวคิดสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนของกลุ่มธนาคารยูโอบีได้รับการรับรอง โดยผู้ชำนาญการอิสระ (Second Party Opinion) จากองค์กรที่น่าเชื่อถือ เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาโครงการที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับโซลูชันทางการเงินที่ยั่งยืนของธนาคาร กรอบแนวคิดการเข้าถึงเงินทุนที่ยั่งยืนที่มุ่งเน้นไปที่การปล่อยสินเชื่อสำหรับอาคารสีเขียว เมืองอัจฉริยะ และเศรษฐกิจหมุนเวียนแล้ว เรายังได้เปิดตัวสินเชื่อระยะสั้นสำหรับธุรกิจหรือสินค้าที่ได้รับการรับรองฉลากสีเขียว (UOB Sustainable Trade Finance Framework) ในปี 2564 เพื่อรองรับความต้องการในระยะสั้นของลูกค้า และสินเชื่อด้านการค้าและการเปลี่ยนผ่าน (UOB’s Transition Financing Framework) เพื่อสนับสนุนองค์กรต่างๆ ในการปรับตัวสู่ความยั่งยืน
รางวัลธนาคารต่างชาติเพื่อลูกค้ารายย่อยแห่งปีในประเทศไทยจากการเดินทางเพื่อมุ่งสู่การเป็นธนาคารที่ลูกค้าชื่นชอบมากที่สุดในอาเซียน
ธนาคารได้ขยายความร่วมมือด้านแบรนด์ร่วมกับแบรนด์ชั้นนำทั่วภูมิภาคอาเซียน อาทิ Mercedez การบินไทย แม็คโคร แกร็บ และลาซาด้า และร่วมเป็นพันธมิตรแบรนด์ใหม่กับสิงคโปร์แอร์ไลน์ (SIA) เพื่อให้ลูกค้ารายย่อยเข้าถึงสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค นอกจากนี้ยังได้เปิดตัว UOB Live ถือเป็นข้อตกลงเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ ร่วมกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของสามยักษ์ใหญ่ของภาคธุรกิจ ได้แก่ AEG ผู้นำด้านธุรกิจความบันเทิงและกีฬาระดับโลก; เดอะมอลล์ กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจรีเทลของประเทศไทยและยูโอบี ธนาคารชั้นนำของอาเซียน ซึ่ง UOB Live เป็นศูนย์กลางความบันเทิงเอเชีย และสถานที่จัดงานอีเวนต์ระดับโลกแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ จึงทำให้ธุรกิจลูกค้ารายย่อยของธนาคารยูโอบี ประเทศไทย มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด
