กรุงเทพฯ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (บล.กรุงศรี) ดึงผู้บริหารรุ่นใหม่เสริมทัพ มุ่งเน้นธุรกิจบริการลงทุนแบบครบวงจร ก้าวสู่การเป็น Digital Broker เพื่อรับมือเทรนด์ความต้องการด้านการลงทุนและเพิ่มความแข็งแกร่งให้บริษัท พร้อมเปิดตัวบริการ KSS iGlobal บริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ ให้นักลงทุนบุคคลสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศง่ายๆ ในแอปพลิเคชั่นเดียว นำร่อง 5 ประเทศ สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง เวียดนาม ญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ นับเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ของประเทศไทยที่นักลงทุนจะสามารถซื้อขายหุ้นสหรัฐอเมริกาทั้งแบบปกติและแบบเศษส่วนหุ้น (Fractional Share) ได้ในแอปพลิเคชั่นเดียวกัน ตอกย้ำความมุ่งหมายในการรังสรรค์นวัตกรรมทางการเงินให้ตรงใจลูกค้าทุกกลุ่มตามกลยุทธ์ One Retail ของกรุงศรี
นายธนัท วงษ์ชูแก้ว กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บล.กรุงศรีได้มีการแต่งตั้งผู้บริหารรุ่นใหม่เสริมทัพเพื่อยกระดับการให้บริการและเพิ่มผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการในการลงทุนที่หลากหลาย เพราะช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาจากวิกฤตโควิด เทรนด์ความสนใจในการลงทุนนั้นสูงขึ้นมากโดยพิจารณาจากการเติบโตของจำนวนบัญชีและปริมาณการซื้อขายต่อวันของตลาดหุ้นไทยและของบริษัท โดยตัวเลขลูกค้าบุคคลที่เปิดบัญชีในปี 2564 เติบโตขึ้น 191% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า โดยคิดเป็นลูกค้าที่ลงทุนผ่านระบบออนไลน์มากกว่า 60% ซึ่งคาดว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับปี 2565 บล.กรุงศรี มุ่งหวังขยายฐานนักลงทุนเพิ่มอีก 10,000 บัญชี โดยตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ 1.58% และรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 13%”
ตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมา บล.กรุงศรีได้เน้นทำการตลาดออนไลน์มากขึ้นรวมถึงเพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูล เพิ่มสินค้าและบริการ เพื่อให้ตอบโจทย์นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุน Gen X และ Gen Y ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีความสนใจด้านการลงทุนเพิ่มมากขึ้น บริษัทฯยังได้พัฒนาระบบการเปิดบัญชีออนไลน์และอนุมัติบัญชีในเวลาเพียง 1 นาที หากลูกค้ายืนยันตัวตนผ่านระบบ NDID หรือ ยืนยันตัวตนผ่านระบบ Krungsri i-CONFIRM ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาและบริษัทในเครือ รวมถึงสาขาพันธมิตรทั่วประเทศ การฝากเงินหลักประกันแบบเรียลไทม์ที่เพิ่มความสะดวกในการโอนเงินเข้าบัญชีหลักทรัพย์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น การเพิ่มเครื่องมืออย่าง KSS stock AI ที่ใช้ระบบ AI ในการสแกนหุ้นทั้งในเชิงปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยเทคนิค ในรูปแบบการให้คะแนนหุ้นนั้นๆ ทำให้นักลงทุนสามารถค้นหาหุ้นคุณภาพดีด้วยตนเองได้ทุกวัน รวมถึงปัจจุบันกำลังพัฒนาแอปพลิเคชั่น KSS Stock Expert ให้ทันสมัยและสามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจในการลงทุน
นอกเหนือจากนี้ทางบล.กรุงศรี ยังมีการเพิ่มบริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น KSS iGlobal ซึ่งจะเปิดบริการในวันที่ 1 กรกฏาคม 2565 นี้ โดย KSS iGlobal นี้เป็นนวัตกรรมการซื้อขายและลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่นที่สามารถซื้อขายหุ้นต่างประเทศรวมกว่า 80 ประเทศได้ในแอปพลิเคชั่นเดียว รวมถึงการซื้อขายหุ้นประเทศเวียดนาม ที่ลูกค้าสามารถทำการซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้โดยไม่ต้องเข้าออกหลายแอป สามารถตรวจสอบสถานะของพอร์ตการลงทุนได้อย่างง่ายดาย โดยในปีนี้บริษัทจะนำร่องโดยการเปิดให้บริการตลาดหลักทรัพย์ที่นักลงทุนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดีใน 5 ประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง เวียดนาม ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ นอกจากนั้นแล้ว KSS iGlobal ยังมีระบบที่เหนือกว่าคู่แข่ง โดยสามารถทำการซื้อขายเศษส่วนหุ้น และ ETF ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาได้โดยตรง (Fractional Share) มากกว่า 3,000 หลักทรัพย์ นักลงทุนสามารถระบุจำนวนเงินลงทุนเริ่มต้นที่ต้องการ จากนั้นระบบจะคำนวณจำนวนหุ้นให้อัตโนมัติ ซึ่งเป็นวิธีคำนวณเดียวกันกับการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีในปัจจุบัน โดยการซื้อขายเศษส่วนหุ้นนั้นมีหลักทรัพย์รองรับรวมถึงมีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล นอกจากนั้นแล้วยังลดความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นระหว่างวัน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนรุ่นใหม่ที่มีเงินลงทุนเริ่มต้นน้อยสามารถเป็นเจ้าของหุ้นเทคโนโลยีชื่อดังหรือหุ้นสินค้าแบรนด์เนมในตลาดสหรัฐฯ ได้ตามจำนวนเงินที่นักลงทุนต้องการ และในอนาคตจะมีการเพิ่มการซื้อขายแบบเศษส่วนหุ้นนี้ในตลาดหลักทรัพย์อื่นด้วย โดยคาดว่าจะสามารถซื้อขายเศษส่วนหุ้นในตลาดฮ่องกงและญี่ปุ่นได้ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ KSS iGlobal ยังมีเครื่องมืออย่าง Technical Analysis รวมถึง Analyst Consensus จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือซึ่งจะให้ข้อมูลของหุ้นที่นักลงทุนสนใจผ่านแอปพลิเคชั่น เพื่อให้นักลงทุนสะดวกในการเรียกดูข้อมูลของหุ้น และมีข้อมูลเพียงพอต่อการประกอบการตัดสินใจในการลงทุน
“การพัฒนาระบบการซื้อขายหุ้นต่างประเทศด้วย KSS iGlobal นี้ เป็นการย้ำถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของ บล.กรุงศรี ที่ต้องการให้นักลงทุนรายย่อยชาวไทยได้เข้าถึงการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น” นายธนัทกล่าว
“ภายใต้คณะผู้บริหารชุดใหม่ที่มุ่งเน้นการทำการตลาดออนไลน์มากขึ้น เพื่อมุ่งสู่การเป็น Digital Broker และยกระดับการให้บริการด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เรามีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์อย่าง PAPT (Portfolio Advisory / Program Trading) รวมถึง Structured Product ไม่ว่าจะเป็น ELN (Equity Linked Note) หรือ FCN (Fixed Coupon Note) ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ เพื่อสืบสานพันธกิจในการสร้างนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ให้สามารถตอบโจทย์การลงทุนของลูกค้าทุกระดับแบบครบวงจร ภายใต้กลยุทธ์ One Retail ของทางธนาคาร ทั้งนี้บริษัทเน้นการให้ความรู้เพิ่มเติมแก่นักลงทุนกับคลาสเรียนออนไลน์ผ่าน KSS Academy ทางกลุ่ม Facebook โดยเนื้อหามีตั้งแต่ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ การใช้เครื่องมือช่วยในการตัดสินใจ ตลอดไปจนถึงการให้ความรู้ด้านกลยุทธ์การลงทุน โดย บล.กรุงศรีพร้อมช่วยให้นักลงทุนสามารถประสบความสำเร็จในการลงทุนได้ ผมเชื่อมั่นว่าด้วยคณะผู้บริหารชุดใหม่รวมถึงบุคลากรและความพร้อมในทุกด้านของบล.กรุงศรี สามารถทำให้บริษัทฯ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสามารถตอบโจทย์นักลงทุนทุกกลุ่ม และเป็นทางเลือกที่จะเพิ่มโอกาสการลงทุนและกระจายความเสี่ยงของนักลงทุนได้” นายธนัท กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ นักลงทุนที่สนใจบริการ KSS iGlobal สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-659-7777 หรือ เว็บไซต์ www.krungsrisecurities.com/kssiglobal