นายสุรสิทธิ์ ศิลปงาม ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า ภายในเดือนกันยายน 2567 รัฐบาลจะโอนเงิน 10,000 บาท ภายใต้โครงการดิจิตอลวอลเล็ต เฟสแรกให้กับพี่น้องประชาชน จำนวน 14.5 ล้านคน โดยเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 11.9 ล้านคน และเป็นคนพิการ 2.6 ล้านคน ทั้งนี้โดยรัฐบาลจะโอนให้เป็นเงินสดซึ่งพี่น้องประชาชนสามารถกดเงินสด จำนวน 10,000 บาท ไปจับจ่ายใช้สอยได้โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ อย่างไรก็ตามในฐานะที่ตนทำงานการรณรงค์และการสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดโศกนาฏกรรมบนท้องถนนมายาวนาน สิ่งที่พบและเป็นปัญหาอย่างยิ่งในปัจจุบันนอกจากการเมาแล้วขับและการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนบางกลุ่มบางพวกแล้ว ปัญหาใหญ่อีกเรื่องหนึ่งคือผู้ขับขี่รถจำนวนมากไม่ทำ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุจึงไม่ได้รับสิทธิ์การเยียวยาที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย หลายครอบครัวล่มสลายเมื่อบุคคลในครอบครัวที่เป็นเสาหลักต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งแทนที่จะได้รับการเยียวยาแต่เพราะรถไม่ได้ทำประกัน พ.ร.บ.ทำให้เสียสิทธิ์ที่จะได้รับการเยียวยาไป
ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวต่อไปว่า ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่รัฐบาลได้อนุมัติเงิน 10,000 บาท ให้กับพี่น้องประชาชน 14.5 ล้านคน เงินดังกล่าวตนเชื่อว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนในยามภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้เป็นอย่างมาก แต่ก็ขอวิงวอนให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ก่อนที่ท่านจะนำเงินไปจับจ่ายใช้สอยสิ่งของต่างๆขอให้ท่านสำรวจว่าบ้านของท่านมีรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่ยังไม่ได้ทำพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือไม่ ถ้ายังไม่ได้ทำ หรือ พ.ร.บ.ที่ทำอยู่หมดอายุขอให้รีบทำโดยเร็วอย่าเสียดายเงินแค่ไม่กี่ร้อยบาท เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นเสียชีวิตคนที่อยู่ข้างหลังจะได้รับเงินเยียวยาสูงถึง 500,000 บาท อย่าให้เงินหลักร้อยที่ท่านต้องเสียไปกับการทำ พ.ร.บ.เป็นสาเหตุให้ชีวิตครอบครัวของท่านต้องล่มสลายด้วยเหตุผลว่าเสียดายเงินเพียงไม่กี่ร้อยบาทในการต่อ พ.ร.บ. โดยต้องแลกกับความล่มสลายในครอบครัวที่จะตามมา
ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับกล่าว เบี้ยประกันภัย พ.ร.บ.รถยนต์ จำนวน 645.21 บาท รถกระบะ จำนวน 967.28 บาท เบี้ยประกันรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 125 cc จำนวน 323.14 บาท รถจักรยานยนต์เกิน 125 cc จำนวน430.14 บาท รถจักรยานยนต์เกิน 150 cc จำนวน 645.21 บาท (ข้อมูลเบื้องต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทประกันภัย)