การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ลุยพลิกโฉมปีท่องเที่ยวไทย เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา ชุด “Write Your New Chapter” ชวนสร้างสรรค์ประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยมิติใหม่ด้วยตัวคุณเอง ภายใต้กรอบแนวคิด “Visit Thailand Year 2022 – 2023 : Amazing New Chapters” ต่อยอด SOFT POWER 6F : 4M นำเสนอคุณค่าการท่องเที่ยวผ่าน Cinematic Theme ใน 3 Chapters ได้แก่ Nature, Love และ Experience ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์และยกระดับสู่การเป็น World Class Destination มุ่งกระตุ้น การเดินทางจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า ททท. ขานรับนโยบายพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทย ปี 2565 ตั้งเป้าให้เกิด Greatest Change ด้วย Soft Power of Thailand ตามแนวคิด 6F : 4M ประกอบด้วย Food Fashion Film Festival Fight Friendship และ Music Museum Master Meta เพื่อเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวคุณภาพ และนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง พร้อมสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง นำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เปลี่ยนแปลงบนพื้นฐานของการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและดิจิทัล โดยกำหนดแคมเปญสื่อสารการตลาด “Visit Thailand Year 2022 – 2023 : Amazing New Chapters” นำเสนอความพิเศษในการท่องเที่ยวผ่านเมนูประสบการณ์ที่มีคุณค่าเหนือราคา From A to Z Amazing Thailand Has it All ชูอัตลักษณ์ของประเทศไทย (Thai Cultural Values) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้ออกเดินทางมาสัมผัส แสวงหาประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่น่าประทับใจมากกว่าที่เคย รวมถึงยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทย สู่การเป็น World Class Destination
สืบเนื่องจากการขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power นั้น FILM ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญ สะท้อนศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยทั้งในเรื่องการบริการของสถานที่ถ่ายทำที่มีความหลากหลาย สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศได้อย่างมหาศาล ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์วัฒนธรรม วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนไทยสู่สายตาชาวโลก ซึ่งที่ผ่านมามีภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จมากมายที่เดินทางเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง เจมส์ บอนด์ 007 ตอน “เพชฌฆาตปืนทอง” (The Man with the Golden Gun) ในปี 2517 ถ่ายทำบริเวณเขาตะปู จ.พังงา ภาพยนตร์เรื่อง Lost in Thailand ปี 2555 ถ่ายทำในจังหวัดเชียงใหม่ ภาพยนตร์เรื่อง The Beach นำแสดงโดยลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ ถ่ายทำที่อ่าวมาหยา บนเกาะพีพีเล จังหวัดกระบี่ เป็นต้น ซึ่งสร้างการรับรู้ถึงความสวยงามให้กับผู้ชมทั่วโลก ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมและเทรนด์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ พบว่าในช่วงที่ผ่านมาภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่องทาง Online VDO Services มีอัตราเติบโตของผู้ติดตามกว่าร้อยละ 26 ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นจนถึง 1,100 ล้านคนทั่วโลก สะท้อนพฤติกรรมของคนในยุคดิจิทัลที่ให้ความสำคัญกับการรับ-ส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ททท. จึงเล็งเห็นความสำคัญของการปรับใช้แนวทางเพื่อบอกเล่าและส่งต่อประสบการณ์ท่องเที่ยวมิติใหม่ในรูปแบบ Cinematic Theme เป็นภาพยนตร์โฆษณา ชุด “Write Your New Chapter” ความยาว 4 นาที ภายใต้การผลิตภาพยนตร์โฆษณาของบริษัท บีบีดีโอ กรุงเทพ และฝีมือกำกับของนายณัฐดนัย ป้อมบ้านต้า ผู้กำกับ บริษัท อันบอกซ์นาว จำกัด พาสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยว 3 Chapters ได้แก่ Amazing New Chapter of Nature ฉายภาพครอบครัวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวทะเลไทย ก่อนพบเจอกับการกลับมาของธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ Amazing New Chapter of Love พาติดตามความรักสุดคลาสสิกของวัยเก๋าในเส้นทางท่องเที่ยวสุดโรแมนติกของประเทศไทยที่จะช่วยเติมเต็มช่องว่างให้พร้อมสำหรับการเริ่มใหม่ได้เสมอ และ Amazing New Chapter of Self Discovery ชวนออกตามล่า ค้นหาตัวตนในรูปแบบภาพยนตร์ Sci-Fi ท่องโลก Metaverse ที่น่าค้นหาและสร้างแรงบันดาลใจไม่รู้จบ โดยทั้ง 3 Chapters นี้ จะช่วยสะท้อนเสน่ห์ของการท่องเที่ยวไทยในมุมมองที่หลากหลาย แปลกใหม่ สร้างแรงบันดาลใจ (Inspire) ให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาค้นหา (Explore) และ สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวมิติใหม่ (Experience) ที่น่าประทับใจ ผ่านการออกแบบเรื่องราว (Chapter) บทต่อไปของการท่องเที่ยวไทยในแบบฉบับของตัวเอง ตลอดจนแบ่งปันสู่ผู้คนทั่วโลก
ทั้งนี้ ททท. วางแผนที่จะนำเสนอภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ เผยแพร่ในต่างประเทศผ่านทางช่องทางสื่อออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงในรูปแบบอื่น ๆ เช่น สื่อ Out of Home ณ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ท่าอากาศยานในต่างประเทศ และช่องทางของ ททท. สำนักงานต่างประเทศ 29 แห่งทั่วโลก รวมถึงเป็นสัญญาณประกาศความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป โดย ททท.คำนึงถึงการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพที่พร้อมออกเดินทางและมีศักยภาพในการใช้จ่าย เช่น กลุ่มตะวันออกกลาง โดยเฉพาะซาอุดิอาราเบีย อิสราเอล และตลาดยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น และอินเดีย ซึ่ง ททท. จะดำเนินงานส่งเสริมการตลาดควบคู่กับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อผลักดันยอดเป้าหมายตลาดต่างประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย อยู่ที่ 7 – 10 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้ 8 แสนล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้