เมืองไป่เซ่อ ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงซึ่งอยู่ทางใต้ของจีน พบว่าอุตสาหกรรมป่าไม้ของเมืองนี้เจริญรุ่งเรืองมากนับตั้งแต่ได้รับอนุมัติจากสภารัฐกิจให้จัดตั้งเขตนำร่องการพัฒนาและการเปิดสู่ภายนอกในปี 2563 โดยอุตสาหกรรมนี้สร้างผลผลิตรวมทั้งปีได้กว่า 1.5 หมื่นล้านหยวนนโยบายอันยอดเยี่ยม ทรัพยากร และความได้เปรียบด้านภูมิประเทศ ทำให้บริษัท 35 แห่งตัดสินใจดำเนินธุรกิจในนิคมอุตสาหกรรมป่าไม้สมัยใหม่ที่เมืองไป่เซ่อ มณฑลกว่างซี ซึ่งนิคมแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตโหย่วเจียง โดยโครงการที่กำลังก่อสร้างมีมูลค่าการลงทุนรวมถึง 4 พันล้านหยวน ซึ่งเป็นการสร้างความคึกคักให้กับการพัฒนาอุตสาหกรรมป่าไม้ในเมืองนี้เขตโหย่วเจียงของเมืองไป่เซ่อมีพื้นที่ป่าไม้ 4.5 ล้านหมู่ ซึ่งมีป่าไม้ครอบคลุมกว่า 80% รวมถึงป่าเชิงพาณิชย์ที่ประกอบไปด้วยต้นยูคาลิปตัสครอบคลุมพื้นที่ราว 460,000 หมู่ เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นในเมืองไป่เซ่อระบุว่า เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของรัฐบาลกลางในการพัฒนาตามหลักปรัชญา “น้ำใส ภูเขาเขียวชอุ่ม เป็นทรัพย์สินที่ประเมินค่ามิได้” เขตโหย่วเจียงจึงได้ใช้ความได้เปรียบด้านทรัพยากรในภูมิภาคอย่างเต็มที่ และอัดฉีดกิจกรรมกระตุ้นให้กับการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจระดับภูมิภาค และยกระดับผ่านอุตสาหกรรมป่าไม้ที่มีความโดดเด่น
นโยบายที่เอื้อหนุนดังกล่าวส่งเสริมการพัฒนาป่าไม้ของเมืองไป่เซ่อมากยิ่งขึ้น และเขตกว่างซีก็เพิ่งประกาศแผนแม่บทเขตนำร่องการพัฒนาและการเปิดสู่ภายนอกในเมืองไป่เซ่อของเขตกว่างซี (2564-2573) โดยให้คำมั่นในการใช้พื้นที่ส่วนท่าเรือของแม่น้ำโหย่วเจียง เพื่อส่งเสริมสภาพการณ์ด้านโลจิสติกส์เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมท้องถิ่นให้ดีขึ้นนอกจากนี้ การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยังมีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมป่าไม้ขยายตัวในเมืองไป่เซ่อด้วย เช่น เมืองนี้ได้ปรับปรุงขั้นตอนสำหรับกิจการของรัฐราว 99.2% นิคมอุตสาหกรรมป่าไม้แห่งนี้ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ดิน 6,668 หมู่ (ประมาณ 444.53 เฮคเตอร์) มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างนิคมที่ครบวงจร ซึ่งรวมโกดังสินค้า โลจิสติกส์ และการผลิตวัสดุทำเฟอร์นิเจอร์ไว้ด้วยกัน โดยคาดว่าจะผลิตผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์รวมทั้งปีได้ 1 หมื่นล้านหยวน และสร้างงานได้ราว 5,000 ตำแหน่ง