บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าขับเคลื่ อนแผนบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(Climate Change) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งเสริมปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้ นที่สีเขียวในสถานประกอบการทั่ วประเทศ และเข้าร่วมโครงการสนับสนุนกิ จกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme : LESS) ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรื อนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. เข้าสู่ปีที่ 7 รวมปริมาณการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกที่ลดลงได้จากการปลูกต้ นไม้และปลูกป่ากว่า 5 หมื่นตันคาร์บอนไดออกไซด์เที ยบเท่า
นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสั งคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นมีส่วนร่ วมบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และลดการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกตลอดกระบวนการผลิต ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่สร้ างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม วางแผนระบบโลจิสติกส์ ลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร รวมไปถึงการแก้ปัญหาโดยอาศั ยธรรมชาติเป็นพื้นฐาน อาทิ การจัดหาวัตถุดิบอย่างรับผิ ดชอบ การอนุรักษ์ปกป้องและฟื้นฟูป่ าต้นน้ำและป่าชายเลน และการเพิ่มพื้นที่สีเขี ยวในสถานประกอบการเพื่อช่วยดู ดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา บริษัทฯ ส่งเสริมให้ฟาร์มและโรงงานทั่ วประเทศ เข้าร่วมโครงการสนับสนุนกิ จกรรมลดก๊าซเรือนกระจก ( (Low Emission Support Scheme: LESS) ของอบก. มาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในปี 2558-2563 มีหน่วยงานของซีพีเอฟที่ได้รั บการรับรองโครงการ LESS ด้านป่าไม้และพื้นที่สีเขียวทุ กปี รวมระยะเวลา 6 ปี มีปริมาณที่สามารถลดการปล่อยก๊ าซเรือนกระจกได้ 52,782.764 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเทียบกับการปลูกต้นไม้กว่า 120,000 ต้น (ขึ้นอยู่กับชนิดและความโตของต้ นไม้ : ข้อมูลจากองค์การบริหารจัดการก๊ าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)) โดยในปี 2564 นี้ หน่วยงานของซีพีเอฟ เข้าร่วมโครงการ LESS เป็นปีที่ 7 แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดอบรมหลักสูตร “การวัดผลการให้บริการระบบนิเวศ และการประเมินการกักเก็บคาร์ บอนของต้นไม้ เพื่อลดก๊าซเรื อนกระจกจากการปลูกต้นไม้ของ CPF” ให้กับพนักงานของฟาร์มและโรงงาน เป็นหลักสูตรที่ซีพีเอฟพัฒนาร่ วมกับอบก. เพื่อให้พนักงานมีทักษะในการวั ดผลการให้บริการระบบนิเวศ การวัดการเจริญเติบโตของต้นไม้ และสามารถคำนวณการกักเก็บคาร์ บอนจากการปลูกต้นไม้ โดยมีวิทยากรและผู้เชี่ ยวชาญจากอบก. และซีพีเอฟ ร่วมถ่ายทอดความรู้ สามารถนำไปปฎิบัติใช้ได้จริง โดยปัจจุบัน อบรมไปแล้ว 15 รุ่น รวมจำนวนพนักงานที่เข้ารั บการอบรม 750 คน
“ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิ จที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดห่วงโซ่การผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ จึงได้ส่งเสริมหน่วยงานต่างๆ ของบริษัท ปลูกต้นไม้ภายในหน่วยงาน โรงงาน ฟาร์ม เพิ่มพื้นที่สีเขี ยวในสถานประกอบการ เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรื อนกระจก” นายวุฒิชัย กล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา มีหน่วยงานของซีพีเอฟที่เข้าร่ วมและได้รับรองโครงการ LESS โดยแยกเป็นรายปี ดังนี้ ปี 2558 มีจำนวนหน่วยงานที่ขอรับรองฯ ด้านป่าไม้และพื้นที่สีเขียว 54 หน่วยงาน ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ 18,017 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ปี 2559 ขอรับรอง 44 หน่วยงาน ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ 9,084 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ปี 2560 ขอรับรอง 51 หน่วยงาน ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ 7,468 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ปี 2561 ขอรับรอง 73 หน่วยงาน ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ 9,218 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ปี 2562 ขอรับรอง 25 หน่วยงาน ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ 3,052.066 ตันคาร์บอน ไดออกไซด์เทียบเท่า และปี 2563 ขอรับรอง 59 หน่วยงาน ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ 5,943.698 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า รวมระยะเวลา 6 ปี หน่วยงานซีพีเอฟช่วยลดการปล่ อยก๊าซเรือนกระจกได้ 52,782.764 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า