งานเสวนาออนไลน์ เรื่อง “ขยะพลาสติก : การจัดการและโอกาส Post COVID-19” จัดขึ้นโดยโครงการความร่วมมือภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม เพื่อจัดการพลาสติก และขยะอย่างยั่งยืน (PPP Plastics) โดยนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ร่วมเสวนาพร้อมด้วย ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ประธานโครงการ PPP Plastics นายวีระ ขวัญเลิศจิตต์ ผู้อำนวยการสถาบันพลาสติก และ ดร. ภาณุวัฒน์ อ่อนเทศ ผู้แทนสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร และมีคุณสร้อยฟ้า ตรีรัตนนุกูล เป็นผู้ดำเนินรายการ ตระหนักถึงความจำเป็นการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกเพื่อความปลอดภัย ตอบรับรูปแบบการใช้ชีวิตลักษณะวิถีชีวิตใหม่ (New normal) มุ่งเน้นจัดการขยะ ณ ต้นทาง
นายอรรถพล ได้กล่าวถึงสถานการณ์และการจัดการปัญหาขยะพลาสติกของไทยว่า ประเทศไทยมีขยะพลาสติกเกิดขึ้นประมาณปีละ 2 ล้านตัน ซึ่งรัฐบาลได้เห็นความสำคัญและตระหนักถึงปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากขยะพลาสติก และได้จัดทำ Roadmapการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 – 2573 และแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2563 – 2565) โดยการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกของภาครัฐ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ภาครัฐตระหนักถึงความจำเป็นที่ต้องใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกเพื่อความปลอดภัยและเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 จึงมุ่งเน้นไปที่มาตรการจัดการหลังการบริโภค โดยส่งเสริมสนับสนุนให้มีรวบรวมนำกลับไปใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรมตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยในฐานะประธานโครงการ PPP Plastics กล่าวว่า โครงการ PPP Plastics เป็นการรวมตัวการดำเนินงานของกลุ่มภาคีเครือข่ายของหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับพลาสติก โดยมีเป้าหมาย คือ สนับสนุนการดำเนินงานตาม Roadmap การจัดการขยะพลาสติก และวาระแห่งชาติด้านเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Model) เพื่อให้สามารถลดปริมาณขยะพลาสติกในทะเลไทยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ภายในปี 2570 โดยขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้ 6 เสาหลัก คือ (1) การพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน (2) การพัฒนานโยบายและกฎหมาย (3) การพัฒนาฐานข้อมูลขยะพลาสติก (4) การสื่อสารประชาสัมพันธ์และการศึกษา (5) การพัฒนานวัตกรรมในภาคอุตสาหกรรม (6) ระดมทุนการบริหารจัดการโครงการ
ด้านนายวีระ ขวัญเลิศจิตต์ ผู้อำนวยการสถาบันพลาสติก ได้กล่าวถึงประโยชน์ของพลาสติกในช่วงโควิดต่อการดำเนินชีวิตและการสาธารณสุข ซึ่งผลิตภัณฑ์พลาสติกต่างๆ จะสามารถตอบรับรูปแบบการใช้ชีวิตลักษณะวิถีชีวิตใหม่ (New normal) และเข้าไปมีส่วนร่วมต่อการดำเนินชีวิตในสังคมมากขึ้น รวมทั้งเป็นการตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยของชีวิต โดยมีการจัดการด้วยระบบ Circular Economy เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มมูลค่า และสร้างความยั่งยืนให้แก่อุตสาหกรรมพลาสติกยิ่งขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในด้าน BCG model
สำหรับ ดร. ภาณุวัฒน์ อ่อนเทศ ผู้อำนวยการส่วนบริการจัดการมูลฝอย สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานครได้กล่าวว่า การจัดการขยะของกรุงเทพมหานครมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาด้วยแนวคิดการจัดการขยะแบบครบวงจร โดยต้องมีการลดคัดแยก ขยะ ณ ต้นทาง ตามหลักการ 3R ซึ่งมีการส่งเสริมการลดใช้ถุงพลาสติก ลดการใช้กล่องโฟม ในอาคารกรุงเทพมหานคร โดยมีการสื่อสารสร้างความเข้าใจ แยกแล้วจัดการต่ออย่างไร พัฒนาระบบรองรับการทิ้งแยกประเภทและประชาสัมพันธ์ เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่เข้าใจให้ประชาชนต่อทัศนคติที่ว่า“แยกแล้วเก็บรวม”
ทั้งนี้ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะพลาสติก โดยเป้าหมายสูงสุด คือ “ขยะ” ต้องไม่ใช่ “ขยะ” เพื่อป้องกันไม่ให้ขยะพลาสติกเล็ดลอดสู่ธรรมชาติ โดยมุ่งเน้นจัดการ ณ ต้นทาง สร้างมูลค่าในห่วงโซ่การจัดการพลาสติก และประชาชนต้องให้ความร่วมมือเริ่มต้นที่ใช้ให้น้อยที่สุด ทิ้งให้ถูกที่ กำจัดอย่างถูกวิธี คัดแยก และนำไปใช้ประโยชน์ในได้มากที่สุดเพื่อให้เกิดการจัดการขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน