กฟผ. ขอความร่วมมือเกษตรกรไม่เผาไร่อ้อย ตอซังข้าวและวัชพืช ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ใกล้แนวเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิต ทรัพย์สิน และระบบไฟฟ้าของประเทศ พร้อมช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 รักษาสิ่งแวดล้อม
นายเริงชัย คงทอง รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – เมษายนของทุกปี เป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะเทศกาลเปิดหีบอ้อย โดยเกษตรกรชาวไร่อ้อยบางส่วนนิยมใช้วิธีการเผาอ้อยก่อนเก็บเกี่ยว เพื่อลดต้นทุนด้านแรงงานทำให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศ คือ วิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ที่มีสาเหตุหลักมาจากการเผาในที่โล่ง ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยได้กำหนดมาตรการในการลดปริมาณอ้อยไฟไหม้ ไม่เกินร้อยละ 20 ในฤดูการผลิตปี 2563/2564 เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาเก็บเกี่ยวอ้อยสดมากยิ่งขึ้น กฟผ. จึงขอความร่วมมือเกษตรกรและประชาชนไม่จุดไฟเผาไร่อ้อย ตอซังข้าวและวัชพืช เพื่อร่วมกันลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยและสร้างมลพิษทางอากาศ รวมทั้งเป็นอันตรายต่อทัศนวิสัยในการเดินทางและการคมนาคมของประชาชน โดยเฉพาะการเผาในพื้นที่ใกล้แนวเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เนื่องจากควันและเขม่าจากการเผาไหม้ อาจส่งผลให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรสู่พื้นดิน ก่อให้อันตรายต่อเกษตรกรและประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวและอาจทำให้เกิดไฟฟ้าตกหรือดับเป็นบริเวณกว้างได้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศและประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าในภาพรวม
รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ. กล่าวเพิ่มเติมว่า เสาและสายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่ กฟผ. ดูแลรับผิดชอบนั้น เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของระบบไฟฟ้า เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่แห่งพลังงานที่เชื่อมโยงกระแสไฟฟ้าจากระบบผลิตไปยังระบบจำหน่าย คือ การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งจะมีการปรับแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสมก่อนส่งจ่ายไปยังผู้ใช้ไฟฟ้าทุกภาคส่วน ดังนั้นเสาและสายส่งไฟฟ้าแรงสูงจึงต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ซึ่ง กฟผ. ได้ดำเนินการดูแลและบำรุงรักษาระบบส่งไฟฟ้าแรงสูงเป็นประจำ เพื่อให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคงและเชื่อถือได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ กฟผ. ขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรและประชาชนที่ทำเกษตรกรรมหรืออยู่อาศัยใกล้บริเวณแนวเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ไม่เผาไร่อ้อย ตอซังข้าว และวัชพืช ในบริเวณดังกล่าว และขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันดูแลรักษาเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งถือเป็นสมบัติของชาติ โดยหากพบเหตุการณ์ผิดปกติ
และไม่ปลอดภัยเกี่ยวกับเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. โปรดแจ้ง ศูนย์บริการข้อมูล กฟผ. โทร. 1416