- ห้องเรียนขนาดใหญ่กว่าโรงเรียนนานาชาติปกติ 50% พร้อมสนามฟุตบอลปูด้วยหญ้าระดับฟีฟ่า ลู่วิ่งมาตรฐานขนาด 400 เมตร สระว่ายน้ำ (น้ำเกลือ) ในร่มขนาดใหญ่ และ Facilities กว่า 40 จุดทั่วโรงเรียน ขึ้นแท่น Best Facilities of British School
- ล่าสุดทุ่มทุนเพิ่ม 30 ล้านบาท สร้างอาคารกีฬาในร่มโรงที่ 3, กันสาดบังแดดสเตเดี้ยมขนาดยักษ์, คาเฟ่DBS รองรับพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อเติมเต็มความสะดวกและเอื้อต่อการเรียน ตามปรัชญาของโรงเรียนคือ สร้างความเป็นเลิศทางการศึกษาและทักษะผู้นำที่มีคุณภาพและมีความสุข “Nurturing Global Leaders”
เด่นหล้า บริติช สคูล (Denla British School – DBS) โรงเรียนนานาชาติชั้นนำที่สอนด้วยหลักสูตรโรงเรียนเอกชนอังกฤษที่ดีที่สุดในโลก เดินหน้าขยาย Facilities สิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็น Best British School ในระดับภูมิภาค ภายหลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดการเรียนการสอนนานาชาติในระดับ EY จนถึง Year 9 (ระดับอนุบาล ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 2) และขยายการศึกษาระดับชั้นเตรียมอนุบาล ภายใต้ชื่อ “DBS Mini Dragons” ที่เปิดรับเด็กอายุ 2-3 ขวบ เพื่อปูพื้นฐานการเรียนรู้และเสริมสร้างพัฒนาการของนักเรียนในทุกมิติ ทำให้วันนี้ DBS มีนักเรียน 400 คน
หลายคนไม่รู้ว่า การสอบ IGCSE และ A-Level เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ต้องมีสิ่งนี้!
ผศ.ดร.ต่อยศ ปาลเดชพงศ์ กรรมบริหารโรงเรียนเด่นหล้า บริติช สคูล (Denla British School – DBS) กล่าวว่า นักเรียนในช่วง Year 13 หรืออายุ 18 ปี ที่กำลังจะศึกษาจบระดับชั้นมัธยมศึกษา เป็นช่วงที่สำคัญมากในการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยด้วยการสอบ IGCSE และ A-Level ซึ่งคุณสมบัติในการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งในประเทศอังกฤษ, ยุโรป และทั่วโลกนั้น ต่างพิจารณาคัดเลือกนักเรียนจากเกณฑ์สำคัญสองส่วนหลักๆ คือ คุณสมบัติทางด้านวิชาการ และทักษะการเป็นผู้นำ หรือทักษะพิเศษต่างๆ อาทิ ความสามารถพิเศษ ความมี Passion ที่โดดเด่นอย่างชัดเจน และทักษะสังคม เป็นต้น คุณสมบัติเหล่านี้ไม่สามารถสร้างกันได้ในช่วงเวลาข้ามคืน แต่ต้องปลูกฝังกันตั้งแต่ในวัยเด็ก ดังนั้น DBS จึงสร้างแนวทางการดำเนินงานภายใต้ปรัชญา “สร้างความเป็นเลิศทางการศึกษาและทักษะผู้นำที่มีคุณภาพและมีความสุข (Nurturing Global Leaders)” ซึ่ง DBS มีความแข็งแกร่ง 5ประการคือ 1.ความเป็นเลิศทั้งทางด้านวิชาการ โดยมีหลักสูตรวิชาหลักคือ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ที่เข้มแข็ง 2.ด้านหลักสูตรการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ ซึ่งเป็นจุดที่โดดเด่นแตกต่างจากโรงเรียนนานาชาติอื่น ไม่ว่าจะเป็นกีฬา ดนตรี ร้องเพลง การละคร ศิลปะ การเขียนโปรแกรมมิ่งและโค้ดดิ้ง โดยเฉพาะฟุตบอล ว่ายน้ำ ยิงธนู ดนตรี ที่มีนักเรียนของ DBS เป็นนักกีฬาระดับชาติและนานาชาติ 3.การเพิ่มการเรียนการสอนอีก 2 ชั่วโมงทุกวัน หรือที่เรียกว่าระบบ Extended Day ซึ่งเป็นส่วนสำคัญทำให้ DBS เปี่ยมไปด้วยเด็กที่มีคุณภาพ เพราะวันเรียนที่ยาวขึ้นในช่วงเย็น จะเป็นนาทีทองที่ส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ให้นักเรียนได้โฟกัสในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเข้าชมรม (Club) ต่างๆ และช่วงเวลาในการทำการบ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับวันต่อไป (Prep) ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องอยู่ภายใต้ดูแลอย่างใกล้ชิดของคุณครูผู้เชี่ยวชาญ 4.บุคลากรครูผู้สอนในระดับแนวหน้าของวงการศึกษาต่างประเทศที่เป็นเจ้าของภาษา และมีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชานั้นๆ โดยปัจจุบัน DBS ได้ครูที่ถือว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ในวงการการศึกษา และเป็นที่ต้องการของตลาดโรงเรียนนานาชาติทั่วโลก มาอยู่ที่ DBS กว่า 60 คน รวมถึงครูผู้ช่วยอีก 50 คน
เมื่อมีแต่หลักสูตรระดับเกรดเอ ก็ต้องมี Facilities คุณภาพเวิลด์คลาสมารองรับ
ดร.ต่อยศ กล่าวต่อว่า ข้อ 5 นี้คือ สิ่งที่ทำให้ DBS แตกต่างจากโรงเรียนนานาชาติทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยเนื้อที่กว่า 60 ไร่ เราได้ออกแบบอาคารเรียนเพื่อตอบโจทย์การเรียนการสอนตามหลักสูตรที่วางไว้ พื้นที่ใช้สอยที่โอ่โถง ห้องเรียนแต่ละห้องให้มีพื้นที่กว้างขวางกว่าโรงเรียนนานาชาติทั่วไปถึง 50% ซึ่งเอื้อกับการเรียนการสอน และการดึงศักยภาพของนักเรียนออกมาอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เพื่อสานต่อพันธกิจในการเป็นโรงเรียนนานาชาติชั้นนำระดับภูมิภาค ในปีนี้ DBS ได้ให้ความสำคัญกับนโยบาย SUN & HEAT PROTECTION ซึ่งเป็นข้อกำหนดมาตรฐานของโรงเรียนนานาชาติชั้นนำทั่วโลก นั่นคือ หากอุณหภูมิภายนอกสูงและรู้สึกเหมือน 40 องศาเซลเซียส จะมีมาตรการป้องกันไม่ให้นักเรียนไปเรียนหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อปกป้องอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนจึงมีช่วงหน้าร้อนที่ยาวนาน และมีการคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า อุณหภูมิในประเทศไทยจะสูงขึ้นจนอุณหภูมิอยู่ที่ 50 องศา ดังนั้นเพื่อคุณภาพชีวิตการศึกษาของนักเรียน DBS จึงลงทุนเพิ่มอีก 30 ล้านบาท ขยาย Facilities เน้นไปที่สิ่งอำนวยความสะดวกในร่ม เพื่อสร้างพื้นที่กิจกรรมภายในร่มให้นักเรียนได้สนุกกับกีฬาและการเล่นอย่างเต็มที่ โดยไม่จำเป็นต้องกังวลถึงความร้อนที่จะมีผลต่อร่างกายในยามที่มีแดดร้อนจัด
ล่าสุด DBS กำลังสร้างอาคารกีฬาในร่มขนาดใหญ่เป็นอาคารหลังที่ 3 จากที่เคยมีอยู่เป็นอาคารกีฬาในร่มและในห้องแอร์ 2 หลัง เมื่อสร้างเสร็จ DBS จะมีอาคารกีฬามากที่สุดและมีขนาดรวมกันกว่า 3,600 ตารางเมตร จุคนได้ถึง3,000 คน นอกจากนี้ยังได้สร้างกันสาดคลุมสเตเดี้ยมขนาดยักษ์ เพื่อเป็นม่านบังแดดให้นักเรียนสามารถมีกิจกรรมกลางแจ้งโดยไร้ความกังวลเรื่องแสงแดด และสร้างออล-อิน-วัน คาเฟ่ ศูนย์รวมบริการเบเกอรี่ อาหาร และเครื่องดื่มสำหรับผู้ปกครอง ในขณะที่นั่งรอลูกเรียนหนังสือหรือทำกิจกรรมระหว่างวัน
การสร้างอาคารกีฬาในร่มแห่งที่ 3 กันสาดบังแดดสเตเดี้ยมขนาดยักษ์ ออล-อิน-วัน คาเฟ่ จะทำให้ Facilitesของ DBS เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบถึงขีดสุดครอบคลุมกว่า 40 จุดทั่วโรงเรียน อาทิ สนามฟุตบอลปูด้วยหญ้าระดับฟีฟ่า ลู่วิ่งมาตรฐาน สระว่ายน้ำ (น้ำเกลือ) ในร่มขนาดใหญ่ ห้องยิมนาสติก สนามเทนนิส สนามซ้อมกอล์ฟ สนามกระโดดไกล สนามรักบี้ สนามเด็กเล่น 3 สนาม สนามทราย ห้องเรียนการแสดง 3 ห้อง ห้องเรียนดนตรี ห้องซ้อมดนตรีส่วนตัว 13 ห้อง สตูดิโอคอมพิวเตอร์ ห้องเวิร์คช็อปวิทยาศาสตร์ 2 ห้อง ห้องสมุด ห้องศิลปะ ห้องแสดงสินค้าและนิทรรศการ เป็นต้น
การันตีโดยมาตรฐานระดับโลกจาก ISAT และ CIS
ดร. เต็มยศ ปาลเดชพงศ์ กรรมการบริหารโรงเรียนเด่นหล้า บริติช สคูล อีกท่าน เสริมว่า “นอกจากนี้ DBS ยังได้ผ่านมาตรฐานของการเป็นสมาชิกของสมาคมโรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไทย (International School Association of Thailand – ISAT) และ Council of International School (CIS) ซึ่งเป็นสถาบันชั้นนำอันดับหนึ่ง ที่ประเมินคุณภาพและรับรองมาตรฐานทางการศึกษาของโรงเรียนนานาชาติทั่วโลก การเรียนการสอนที่ DBS มุ่งเน้นความเข้มแข็งทางด้านวิชาการ ครูผู้สอนต้องจบด้านการศึกษาและเป็นชาวอังกฤษทั้งหมด ความพร้อมของสถานที่และอุปกรณ์การสอน ที่มีคุณภาพเทียบกับโรงเรียนเอกชนชั้นนำในประเทศอังกฤษ รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสากล อีกทั้งยังสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ และความร่วมมือกันระหว่างคุณครูและผู้ปกครองอย่างดีเยี่ยม ดังนั้นการได้รับรองจากสองสถาบันนี้ทำให้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า DBS มีความพร้อมในการผลิตและสร้างผู้นำที่มีคุณภาพสามารถแข่งขันบนเวทีระดับโลก สมกับคติของโรงเรียนคือ “Always to Greater Things”
การเรียนเป็นเลิศและการค้นพบ Passion ในตัวเอง คือกุญแจสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก
มร. มาร์ค แม็คเวย์ (Mr. Mark McVeigh) ครูใหญ่โรงเรียนเด่นหล้า บริติช สคูล ผู้มากประสบการณ์จากโรงเรียนชั้นนำทั้งในประเทศอังกฤษ และภูมิภาคเอเชีย ต่อยอดวิสัยทัศน์ของกลุ่มผู้ก่อตั้ง ตระกูลปาลเดชพงศ์ จึงมุ่งเน้นไปที่คุณภาพการเรียนการสอน และสภาพแวดล้อมที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และการค้นพบความถนัดของตนเอง และพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ มร. แมคเวย์ กล่าวเสริมว่า ด้วยความแข็งแกร่งของการดำเนินงานภายใต้หลักปรัชญาความเป็นเลิศทั้ง 4 ด้าน (The Unique DBS Vision) ได้แก่ 1.การใช้หลักสูตรและรูปแบบการจัดการเรียนการสอนจากโรงเรียนเอกชนชั้นนำของประเทศอังกฤษ ที่มีความโดดเด่นทั้งด้านวิชาการและด้านกิจกรรม มาปรับปรุงให้เข้ากับบริบทของสังคมไทย รวมถึงการเสริมภาษาจีน และภาษาไทยเข้าไปในหลักสูตรเพื่อให้เข้ากับความต้องการของโลกอนาคต (Enhanced British Curriculum) 2.การส่งเสริมให้เด็กนักเรียนมีสัมฤทธิผลทางวิชาการเต็มศักยภาพ (Academic Excellence for All) 3.การพัฒนาและปลูกฝังทักษะความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship and Creative Thinking) เช่น ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ความกล้าหาญในการตัดสินใจและลงมือทำ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในอนาคต และ 4.การปลูกฝังทักษะการสื่อสาร ทักษะการเป็นผู้นำ และวัฒนธรรมไทยที่เข้มแข็งให้กับนักเรียน (Global Perspective and Creative Thinking) ทำให้ที่ผ่านมา นักเรียน DBS มีพัฒนาการที่ดีขึ้นในทุกด้านอย่างเห็นได้ชัด และมีนักเรียนที่สามารถคว้ารางวัลด้านวิชาการต่างๆ (Academic Awards) และรางวัลด้านกิจกรรมและกีฬา (Non-Academic Awards) ทั้งแบบบุคคลและทีมกว่า 30 คน ทำให้ DBS ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นโรงเรียนนานาชาติที่สร้างผู้นำและผู้ประกอบการในอนาคตอันดับต้นๆ ซึ่งหากการก่อสร้าง Facilities ดังกล่าวแล้วเสร็จ DBS จะมีพื้นที่ในการฝึกฝนเด็กนักเรียนทั้งในร่มและกลางแจ้งได้อย่างเต็มอัตรา สามารถผลักดันศักยภาพนักเรียนให้ทะยานไปสู่เป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความเพียบพร้อมทางวิชาการ หลักสูตรต่างๆ ครูผู้สอน และการขยาย Facilities นี้จะเพิ่มผลผลิตของนักเรียนคุณภาพจากที่มีอยู่เดิมให้มากยิ่งขึ้น