เมื่อเชียงใหม่ได้เปิดตัวโครงการ Chiangmai Crypto City (CCC) มุ่งสร้าง Ecosystem ที่อยู่บน Blockchain และนำร่องให้จังหวัดเชียงใหม่เข้าสู่เมืองที่ขับเคลื่อนด้วย Blockchain แห่งแรกของไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปไม่นาน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิตได้รวมตัวเหล่านักศึกษาสถาปัตย์สร้างผลงาน SKD Metaverse ออกแบบทัศนียภาพ และประชากรบนโลกเสมือน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งสนับสนุนให้เกิด Social Enterprise Platform ร่วมพัฒนาองค์กรและชุมชน เพื่อเปิดโลกการเรียนรู้และแรงบันดาลใจเตรียมพร้อมคนรุ่นใหม่ก้าวสู่โลกจักรวาลนฤมิต
อาจารย์มนต์ชัย บุญยะวิภากุล รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า หลายประเทศมีการเดินหน้าพัฒนา Crypto City ซึ่งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมีความตื่นตัวสร้างความร่วมมือกันสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของโลกเพื่อเชื่อมทุกแพลตฟอร์มเข้ามาอยู่ด้วยกันบน Blockchain ซึ่งส่วนตัวได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain และมีความเชื่อว่ามันคือโลกอนาคตที่สามารถประยุกต์เข้าไปในทางธุรกิจได้ ประกอบแนวความคิดของ Chiangmai Crypto City โดยคุณนที เทพโภชน์ Co-Founder ของ CCC นั่น ทำให้เห็นภาพว่าหากประเทศไทยมีการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain อาจทำให้เกิดโมเดลรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม เกิดพื้นที่ให้คนที่มีไอเดีย แต่ยังขาดโอกาสและทรัพยากรได้มาทดลองสร้างสิ่งใหม่ ๆ กัน แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องของเทคโนโลยี Blockchain หรือ Crypto Currency ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับหลายคน ซึ่งยังต้องให้ความรู้ว่าเทคโนโลยี Blockchain สามารถนำไปประยุกต์ใช้ทางธุรกิจได้หลากหลายทุกวงการอย่างไร แม้กระทั่งสถาบันการศึกษาเองก็ตามซึ่งเป็นสถานที่ผลิตบัณฑิตไปประกอบอาชาชีพและพัฒนาประเทศ ทำให้มองเห็นว่าเศรษฐกิจดิจิทัลกำลังมาแน่นอนในอนาคต เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญเหมือนช่วงยุคเริ่มต้นใช้อินเตอร์เนต ตรงนี้เองทำให้กลับมองในส่วนที่สามารถนำเข้ามาเชื่อมโยงกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิตได้นั้น จะทำอย่างไร ด้วยการเรียนการสอนด้านสถาปัตย์เน้นการออกแบบเมือง ออกแบบอาคาร และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง การเข้าร่วมโปรเจกต์กับทาง CCC ที่กำลังเริ่มสร้าง Metaverse นั้น จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะให้นักศึกษาได้เข้ามา แสดงความคิด สร้างสรรค์ อะไรบางอย่างได้ รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาองค์กรและชุมชน เพื่อเปิดโลกการเรียนรู้และแรงบันดาลใจเตรียมพร้อมคนรุ่นใหม่ก้าวสู่โลกจักรวาลนฤมิตอีกด้วย
ในส่วนของการนำโปรเจกต์ร่วมกับทาง CCC เข้ามาประยุกต์กับการเรียนของนักศึกษาสถาปัตย์นั้น คือ เริ่มจากการให้โจทย์นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาเหตุที่เลือกชั้นปีนี้เนื่องจากน้อง ๆ อยู่ในวัยที่มีความสด ความใหม่ของความคิดสร้างสรรค์ โดยให้นักศึกษานำเสนอไอเดียจุด Spawn-point ของ CCC Metaverse โดยทาง CCC เป็นผู้ให้แนวคิดของโครงการ ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดสำคัญของนักออกแบบไม่ว่าจะออกแบบอะไรต้องรับฟังแนวคิด และนำมาวิเคราะห์ กลั่นกรอง จินตนาการเพื่อออกมาเป็นผลงานออกแบบ ผลงาน SKD Metaverse ของน้อง ๆ เป็นการออกแบบทัศนียภาพ และประชากรบนโลกเสมือน บริเวณ ของ Chiangmai Crypto City ซึ่งผลงานแสดงความหลากหลายทางจินตนาการของนักศึกษาสถาปัตย์ ที่สามารถแปลงชุดข้อมูลแนวคิดถอดรหัสไปสู่ความงามที่เห็นเป็นรูปธรรม ทาง CCC ได้เห็นผลงานและได้รับการตอบรับที่ดี และนำไปแสดงในงานเสวนาทั้งในและต่างประเทศ ข้อดีที่เป็นประโยชน์แก่นักศึกษาในโปรเจกต์นี้ คือ เมื่อออกแบบอาคาร 1 หลัง จากเดิมออกแบบแล้วส่งอาจารย์ก็จบกัน แต่ถ้าออกแบบเสร็จแล้วแปลงเป็น NFT นำไปไว้ใน Metaverse คนทั่วโลกเข้ามาดูผลงานหากชื่นชอบสามารถขอซื้อผลงานหรือมาว่าจ้างให้ออกแบบทำให้นักศึกษาต่อยอดจากเทคโนโลยีนี้ได้ ทั้งนี้ ทางคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ยังวางแผนทำความร่วมมือต่อเนื่องร่วมกับทาง CCC ในการพัฒนา Metaverse และตั้งเป้าเพื่อทำวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองร่วมกัน รวมถึงร่วมจัดทำเนื้อหาในรายวิชาของหลักสูตรในอนาคต”
ทางด้านแพทย์หญิงนวพร นะลิตา Founder and Project Leader ของ Chiangmai Crypto City และศัลยแพทย์ระบบประสาท กล่าวว่า “โปรเจกต์นี้หากมองภาพใหญ่เรียกว่าเป็น Decentralized Open Source Platform บน Smart Contract ที่เชื่อมทุกแพลตฟอร์มเข้ามาอยู่ด้วยกันบน Blockchain ของโลกอนาคต และที่สำคัญเราเชื่อว่าเทคโนโลยี Blockchain ไม่ได้จำกัดอยู่เรื่องของระบบการเงิน (Financial) ด้วยความที่จุดเด่นของ Blockchain นั้นสามารถสร้างมูลค่าได้ และสามารถขยายมูลค่านั้นไปได้ทั่วโลก ตรงนี้ทำให้เกิดไอเดียในการสร้างมูลค่าหากเราสร้างเมืองเมืองหนึ่งที่มีการรวมกลุ่มคนหลากหลายสาขา สาเหตุที่เลือกเมืองเชียงใหม่ในการทำโปรเจกต์เพราะเป็นเมืองสำคัญของไทยมีความน่าหลงใหล มีประชากรที่มีความหลากหลายมาก เป็นเมืองที่มีความทันสมัย ขณะเดียวกันก็ยังเป็นเมืองทางวัฒนธรรมที่สวยงาม คาดว่าจะเป็นเมืองจุดเริ่มต้นนำร่องสู่เมือง Crypto แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ ซึ่งได้เปิดตัวไปในงาน Block Mountain Cnx 2022 ทาง CCC ซึ่งได้รับการตอบรับเพราะเปิดโอกาสให้เราเป็นคนกลางที่เชื่อมต่อการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain เข้ากับภาครัฐที่มีนโยบายด้านนี้อยู่แล้ว ร่วมกับหน่วยงานเอกชน เป็นการรวมกลุ่มคน ทรัพยากร สถานที่ โครงสร้างพื้นฐาน Blockchain ที่เปิดเสรีให้ทั้งคนไทยและต่างประเทศเข้ามาร่วมได้ โดยแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มบุคคลที่เข้ามาเยี่ยมชมใน Community และกลุ่มคนร่วมทำงานพัฒนาชุมชนร่วมกัน ซึ่งขณะนี้มีทั้งองค์กรอย่างสถาบันการศึกษา บริษัท Blockchain ระดับโลก และกลุ่มอาชีพ อาทิ หมอ สถาปนิก นักกฎหมาย กลุ่ม FinTech (ฟินเทค) เข้ามาร่วมกันพัฒนาโปรเจกต์กับเรา ตรงนี้ทาง CCC จะทำหน้าที่เชื่อมต่อ บริหารจัดการประโยชน์ที่ทุกกลุ่มจะได้รับนั่นคือ คุณค่า และมูลค่า มิติต่าง ๆ ให้กับทุกกลุ่มคนอย่างเหมาะสม
ในส่วนของการร่วมมือกับสถาบันการศึกษานั้น จะเป็นเรื่องการการจัดการความรู้ ที่ทาง CCC เห็นว่าคุณค่าของการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain ร่วมกับสถาบันการศึกษา ซึ่งได้ทำความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา อาทิ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยภาคอีสาน ฯลฯ เพื่สร้างคลังความรู้ หรือ Knowledge Sharing ที่มีมูลค่ามหาศาล ด้วยศักยภาพความพร้อม CCC และองค์กรพันธมิตรระดับโลกด้านการศึกษาด้าน Blockchain เทคโนโลยี Ai , Metaverse และ NFT เข้ามาช่วยดูแล ทำให้เราเชื่อว่าจะเกิดความร่วมมือในมิติองค์ความรู้จากสถาบันการศึกษามาพัฒนา Chiangmai Crypto City ซึ่งตอนนี้มิติที่เรายังต้องการเชื่อมต่อได้แก่ รัฐศาสตร์ การเมืองการปกครอง กฎหมาย เพื่อสร้างกฎเกณฑ์ของเมืองใน Metaverse เป็นต้น นอกจากนี้ทาง CCC เองเรามี Research Sandbox หรือพื้นที่ทดลอง Blockchain ให้กับทุกคนเพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ด้วย ซึ่งตรงนี้เองนำมาซึ่งการเปิดพื้นที่ให้ทางนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยรังสิต มาทดลองออกแบบตัวเมือง ออกแบบสถาปัตยกรรม การออกแบบทัศนียภาพใน Metaverse ของทาง CCC ให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งผลงานของน้อง ๆ แสดงให้เห็น Passion ของคนรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นวางพื้นฐานแม้จะเป็นเพียงงานด้านสถาปัตยกรรมเป็นตัวเริ่ม แต่เชื่อว่าในอนาคตนักศึกษากลุ่มนี้ รวมถึงอีกหลายกลุ่มที่กำลังเข้ามาร่วมโปรเจกต์จะมีความพร้อมในเทคโนโลยีใหม่นี้ ทางทีมผู้ก่อตั้ง CCC มองว่าจะเป็นผลดีต่อทุกกลุ่มคนในประเทศไทย และจะเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ เป็น Social Enterprise Platform โลกอนาคตของคนรุ่นต่อไป”
ทั้งนี้ สำหรับสถาบันการศึกษาที่มีความพร้อมทางด้านบุคลาการ คลังความรู้ต่าง ๆ หรือกลุ่มคนทั่วไปที่สนใจ และเชื่อว่า Blockchain คือ “อนาคตของโลก” อยากเข้ามาร่วมโปรเจกต์เพื่อเป็นฐานให้กับอนาคตกับคนรุ่นใหม่ ช่วยเหลือสังคม พัฒนาองค์กรและชุมชน รวมถึงร่วมสร้างโอกาสให้กับเศรษฐกิจไทยผ่านโลกธุรกิจยุคดิจิทัลแบบยั่งยืน (Infinite Games) ช่องทางการติดตามข่าวสาร Twitter: @Chiangmaicrypto Facebook: Chiangmai Crypto City และ Youtube: chiangmai cryptocity (CCC)
ชมผลงานการออกแบบของนักศึกษาสถาปัตย์ ม.รังสิต แบบเต็ม ๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=oa.706283760506435&type=3