สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) และมหาวิทยาลัยพะเยา จับมือสร้างเครือข่ายงานวิจัยเข้มแข็งระหว่างหน่วยงานภาครัฐ หนุน คาดหวังเกิดความก้าวหน้าด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีโดยอาศัยเทคโนโลยีแสงซินโครตรอน พัฒนากำลังคน สร้างผลงานตีพิมพ์ทางวิชาการ สู่การประยุกต์ใช้เชิงอุตสาหกรรมและชุมชน
กรุงเทพมหานคร – ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) โดย รศ.ดร.สาโรช รุจิรวรรธน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน และมหาวิทยาลัยพะเยา โดย รศ.ดร.สุภกร พงศบางโพธิ์ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา ณ อาคารพระจอมเกล้า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม โอกาสนี้ รศ.ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ รองปลัดกระทรวง อว. ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามด้วย
รศ.ดร.สาโรช รุจิรวรรธน์ กล่าวว่า “หนึ่งในพันธกิจของสถาบันฯ คือการส่งเสริมและถ่ายทอดการเรียนรู้เทคโนโลยีแสงซินโครตรอนและการใช้ประโยชน์ สู่การยกระดับและพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ความร่วมมือครั้งนี้จะส่งเสริมและสนับสนุนให้นิสิตและนักวิจัยของมหาวิทยาลัยพะเยา สามารถใช้เทคนิคแสงซินโครตรอน และเครื่องมือวิเคราะห์ทดสอบของสถาบันได้ ร่วมกับพัฒนาบุคลากร แลกเปลี่ยนความรู้ที่เกี่ยวข้อง และร่วมสร้างความร่วมมือเครือข่ายงานวิจัยที่เข้มแข็งระหว่างหน่วยงานภาครัฐด้วยกัน”
รศ.ดร.สุภกร พงศบางโพธิ์ กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยพะเยาให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการและการวิจัยให้อาจารย์ นักวิจัย และนิสิตที่มีความสนใจ ความเชี่ยวชาญในศาสตร์เฉพาะด้าน ได้พัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ ก่อให้เกิดระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ที่จำเป็นในอนาคต ความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยให้เกิดความก้าวหน้าด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี โดยอาศัยเทคโนโลยีแสงซินโครตรอนเป็นฐาน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากำลังคน การสร้างสรรค์กิจกรรมทางวิชาการใหม่ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในวงกว้าง สู่การประยุกต์ใช้ในเชิงอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ ชุมชนและสังคม เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีทางสังคม”
นอกจากนี้ ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันสนันสนุนด้านวิชาการ การฝึกอบรม การวิจัยและพัฒนาด้วยเทคโนโลยีแสงซินโครตรอน และด้านเทคนิควิศวกรรมขั้นสูง เพื่อใช้ในการพัฒนาองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลการจัดการความรู้ ข้อมูลสารสนเทศ งานวิจัย วิทยานิพนธ์ และเอกสารทางวิชาการ ร่วมทั้งสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ตามที่เห็นสมควรด้วย