เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา ไฮเซ่นส์ (Hisense) ได้เผยแพร่รายงานฉบับล่าสุดที่ประกาศร่วมกับจีเอฟเค (GfK) และอิปซอสส์ (IPSOS) ณ งานแถลงข่าวเพื่อประกาศตัวเลขสำคัญประจำปี 2564 ของไฮเซ่นส์ (Hisense 2021 Branding Key Figures Press Conference) ตัวเลขสำคัญเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคทั่วโลกมีความต้องการเครื่องใช้ในบ้านแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2564 ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้ตลาดเครื่องใช้ในบ้านเติบโต 13% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดขายเครื่องใช้ในบ้านของไฮเซ่นส์ขยายตัวกว่า 30% นอกจากนี้ การรับรู้แบรนด์ของไฮเซ่นส์ยังติดอันดับต้น ๆ ในหลายหมวดหมู่ทั่วโลก และตอกย้ำอย่างแข็งแกร่งถึงตำแหน่งผู้นำของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับโลก
ยอดขายและการรับรู้แบรนด์ของไฮเซ่นส์ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดโลก
จีเอฟเคระบุว่า ในปี 2564 16% ของผู้บริโภคเปลี่ยนเครื่องใช้ในบ้านให้ดีขึ้น ส่งผลให้ยอดขายเครื่องใช้ในบ้านทั่วโลกเพิ่มขึ้น 13% และยอดขายทีวีเพิ่มขึ้น 6% นับเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกัน ตลาดนอกประเทศจีนของไฮเซ่นส์ยังขยายตัวกว่า 30% โดยมีส่วนแบ่งตลาด 8% ในอุตสาหกรรมทีวี นอกจากนี้ นอร์แบร์ท เฮอร์ซอก (Norbert Herzog) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ระดับโลกของจีเอฟเค เอสอี เชื่อว่าการบริโภคของพรีเมียมได้กลายเป็นเทรนด์การบริโภคของตลาดไปแล้ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไฮเซ่นส์ยังคงให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมระดับพรีเมียมและกลยุทธ์ด้านโลกาภิวัตน์ ซึ่งประสบความสำเร็จในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมคุณภาพและบริการอันเป็นเลิศแก่ผู้บริโภคทั่วโลก จนส่งผลให้ไฮเซ่นส์ประสบความสำเร็จมากขึ้นในด้านยอดขายและการรับรู้แบรนด์
ข้อมูลการวิจัยของอิปซอสส์สำหรับปี 2562-2564 ระบุว่า มูลค่าแบรนด์ไฮเซ่นส์ขยายตัว 54% ภายใน 3 ปี และการรับรู้แบรนด์ในธุรกิจ 2B เช่น เมืองอัจฉริยะ, การคมนาคมขนส่ง และการดูแลสุขภาพได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม ซึ่งหมายความว่า การรับรู้แบรนด์ทั่วโลกของไฮเซ่นส์เติบโตอย่างมาก และเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับปี 2564 ยอดขายทีวีของไฮเซ่นส์ในสหรัฐ เม็กซิโก และตลาดยุโรปตะวันตกที่สำคัญ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ขยายตัวมากกว่า 30% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนยอดขายทีวีเลเซอร์ของไฮเซ่นส์ในตลาดต่างประเทศนอกประเทศจีน ขยายตัว 279% เมื่อเทียบเป็นรายปี
โลกาภิวัตน์และพัฒนาเทคโนโลยีระดับพรีเมียม เพื่อบรรลุความสำเร็จของแบรนด์
เจอร์รี หลิว (Jerry Liu) รองประธานฝ่ายการตลาดระหว่างประเทศของไฮเซ่นส์กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นของไฮเซ่นส์ที่มีต่อเทคโนโลยีไม่เคยเปลี่ยนแปลงตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราทุ่มเทด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมแก่ผู้บริโภคทั่วโลก” ด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่องในการสร้างแบรนด์และผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ไฮเซ่นส์คาดว่าผลิตภัณฑ์เรือธงอย่างทีวี ยูแอลอีดี (ULED TV) จะทำยอดขายเพิ่มขึ้นได้กว่า 40% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนยอดขายเลเซอร์ทีวีจะเพิ่มเป็นเท่าตัว
ในแง่ของรูปแบบธุรกิจ ไฮเซ่นส์จะก่อตั้งร้านแฟล็กชิปสโตร์ระดับพรีเมียมเกือบ 100 แห่งทั่วโลก สร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาเพิ่มเติมในสหรัฐและญี่ปุ่น เพิ่มการลงทุนในด้านการพัฒนาโดยรวมเพื่อให้เกิดการผลิต การจัดจำหน่าย และรูปแบบการขายที่ดีขึ้น ในอนาคต ไฮเซ่นส์จะดำเนินการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมและไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอนด์แก่ผู้บริโภค และก้าวขึ้นเป็นแบรนด์เทคโนโลยีที่น่าเชื่อถือทั่วโลก