ผู้นำรุ่นใหม่ 50 คนได้รับการยอมรับจากคณะกรรมาธิการยุโรปและวัน ยัง เวิลด์ จากความพยายามในการป้องกันและต่อต้านแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรง ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายที่สุดทั่วโลกตัวแทนคนรุ่นใหม่เหล่านี้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดวัน ยัง เวิลด์ ประจำปี 2565 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ระหว่างวันที่ 5-8 กันยายน วัน ยัง เวิลด์ (One Young World) ชุมชนระดับโลกของผู้นำรุ่นใหม่ ประกาศแต่งตั้งทูตสันติภาพประจำปี 2565 จำนวน 50 คน เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่เมืองแมนเชสเตอร์ ร่วมกับคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) วัน ยัง เวิลด์ สนับสนุนผู้นำรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นในการป้องกันความรุนแรงและแนวคิดสุดโต่งในชุมชนของตนเอง สำหรับโครงการในปีนี้มุ่งเน้นไปที่บทบาทของการบิดเบือนข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเกลียดชัง ความขัดแย้ง และแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรง
นับตั้งแต่ปี 2560 วัน ยัง เวิลด์ และคณะกรรมาธิการยุโรป ได้สนับสนุนคนหนุ่มสาว 240 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างสันติภาพและการป้องกันความขัดแย้งทั่วโลก เพื่อสร้างอนาคตที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นทูตสันติภาพจะเข้าร่วมกิจกรรมตลอด 4 วัน ซึ่งประกอบด้วยการกล่าวสุนทรพจน์ การอภิปรายแบบคณะ การสร้างเครือข่าย และการประชุมเชิงปฏิบัติการ โดยจะได้รับคำแนะนำจากผู้นำทางการเมือง นักธุรกิจ และนักเคลื่อนไหวด้านมนุษยธรรมที่ทรงอิทธิพลหลายท่าน เช่น นายบัน คี มุน อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ, นายพอล โพลแมน อดีตซีอีโอของยูนิลีเวอร์ (Unilever) และดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ยังมีโอกาสแบ่งปัน เรียกร้อง มีส่วนร่วม และสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับบรรดาผู้นำระดับโลก โดยมีสื่อมวลชนทั่วโลกร่วมเป็นสักขีพยานการประชุมสุดยอดครั้งนี้จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแมนเชสเตอร์ เซ็นทรัล (Manchester Central) ระหว่างวันที่ 5-8 กันยายน ส่วนพิธีเปิดจัดขึ้นที่บริดจ์วอเตอร์ ฮอลล์ (Bridgewater Hall) ซึ่งเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ
คุณเอลลา โรเบิร์ตสัน แมคเคย์ กรรมการผู้จัดการของวัน ยัง เวิลด์ กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับคณะทูตสันติภาพประจำปีนี้สู่เมืองแมนเชสเตอร์ โดยร่วมมือกับคณะกรรมาธิการยุโรป เรายังคงประทับใจในความยืดหยุ่นและความมุ่งมั่นของผู้นำรุ่นใหม่ทั่วโลกในการสร้างอนาคตที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น” “เราภูมิใจที่ได้ให้การต้อนรับเหล่าคนรุ่นใหม่ผู้สร้างแรงบันดาลใจและมีความคิดสร้างสรรค์จากทั่วทุกมุมโลก ด้วยการเปิดเวทีให้แสดงออกและรับฟังความคิดเห็นของทุกคน การประชุมสุดยอดของเรามอบทั้งความรู้ ทักษะ เครือข่าย และเวทีสำหรับผู้นำรุ่นใหม่ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายและมีอิทธิพลอย่างแท้จริง”