สายการผลิตอัจฉริยะ 5G+ อินดัสเทรียล อินเทอร์เน็ต ที่มีความก้าวล้ำของฉางหง ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ผลักดันให้บริษัทขึ้นแท่น 50 สุดยอดองค์กรชั้นนำจีน ฉางหง (Changhong) ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านชั้นนำจากประเทศจีน ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 50 สุดยอดองค์กรการผลิตอัจฉริยะชั้นนำของจีน (China’s Top 50 Intelligent Manufacturing Enterprises) จากสายการผลิตอัจฉริยะ 5G+ อินดัสเทรียล อินเทอร์เน็ต (5G+Industrial Internet) ของบริษัท รายชื่อสุดยอดองค์กรเหล่านี้จัดทำขึ้นภายใต้ความร่วมมือของซีไอวีค (CIWEEK) ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ในเครือสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน กับสถาบันวิจัยอีเน็ต (eNet Research Institute) และบริษัทเดอ เบน เมเนจเมนต์ คอนซัลติง (De Ben Management Consulting) เมื่อปี 2563 สายการผลิต 5G+ อินดัสเทรียล อินเทอร์เน็ต แห่งแรกของจีนได้เริ่มเปิดดำเนินการ ณ โรงงานผลิตจอแสดงผลอัจฉริยะของฉางหง ซึ่งถือได้ว่าเป็นสายการผลิตสินค้าปริมาณมากเฉพาะกลุ่ม (mass customization) สำหรับสินค้าประเภทสมาร์ททีวีที่มีความก้าวล้ำมากที่สุดแห่งหนึ่งในจีน เนื่องจากสามารถผสานรวมขั้นตอนการผลิตทั้งหมดไว้ได้ในระบบเดียว ตั้งแต่การวางแผน การดำเนินการ การจัดซื้อ วัสดุ และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ซึ่งผู้ปฏิบัติงานสามารถติดตามผลและบริหารจัดการกระบวนการทั้งหมดได้ผ่านระบบควบคุมอุปกรณ์อุตสาหกรรม
และในปีเดียวกันนั้น ฉางหงก็ได้จัดตั้งศูนย์การผลิตอัจฉริยะแบบแยกส่วนนอกประเทศจีน โดยมาพร้อมกับระบบข้อมูลที่รวบรวมแพลตฟอร์มคลาวด์ไอโอที บิ๊กดาต้า ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีสนับสนุนอื่น ๆ ศูนย์แห่งนี้ทำหน้าที่เป็นระบบการผลิตอันชาญฉลาดที่ทรงประสิทธิภาพและมีความยืดหยุ่นสูง รองรับสินค้าที่ได้จากการผลิตสินค้าปริมาณมากเฉพาะกลุ่ม ส่งผลให้ฉางหงประสบความสำเร็จในการพลิกโฉมองค์กรสู่การเป็นผู้ผลิตอัจฉริยะ ฉางหงเริ่มออกไปแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ในตลาดต่างประเทศเมื่อปี 2541 โดยหลังจากการก่อตั้งโรงงานผลิตโทรทัศน์และเครื่องปรับอากาศในอินโดนีเซียในปี 2543 ฉางหงได้เปิดโรงงานในสาธารณรัฐเช็กในปี 2548 และกลายเป็นบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแห่งแรกของจีนที่ลงทุนอย่างอิสระในยุโรป ต่อมาในปี 2554 ฉางหงได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับรูบา กรุ๊ป (RUBA Group) ผู้จัดจำหน่ายเครื่องใช้ในบ้านรายใหญ่ที่สุดของปากีสถาน เพื่อก่อตั้งบริษัทฉางหง รูบา (Changhong RUBA) และเปิดบริษัทร่วมทุนเพื่อรังสรรค์สายผลิตภัณฑ์โทรทัศน์ ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ ซึ่งทางบริษัทก็สามารถบรรลุเป้าหมายในการสร้างสรรค์สายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอย่างเต็มรูปแบบในปากีสถาน ส่วนในปี 2563 ฉางหงก็ประสบความสำเร็จในการติดตั้งและทดสอบสายการผลิตอัตโนมัติใหม่ ตลอดจนการทดสอบการทดลองผลิต ณ ฐานการผลิตหลักในต่างประเทศ ซึ่งช่วยยกระดับกำลังการผลิตและประสิทธิภาพของโรงงานได้อย่างมีนัยสำคัญ
ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ฉางหงประสบความสำเร็จทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต เทคโนโลยี และชื่อเสียงของแบรนด์ อันเป็นผลมาจากความมุมานะของธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัจจุบัน ฉางหงมีบริษัทย่อย 13 แห่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนา 3 แห่ง และฐานการผลิต 5 แห่งในต่างประเทศ สำหรับในอนาคตนั้น ฉางหงมีเป้าหมายที่จะเข้าร่วมเครือข่ายโกลบอล ไลท์เฮาส์ เน็ตเวิร์ก (Global Lighthouse Network) ของเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม พร้อมขยายธุรกิจของบริษัทไปยังห่วงโซ่คุณค่าทั้งในระดับต้นน้ำและปลายน้ำ อาทิ คอมเพรสเซอร์ตู้เย็นและการจัดเก็บบิ๊กดาต้า โดยไม่ทิ้งจุดแข็งของบริษัทที่มีความโดดเด่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ๆ อย่าง ทีวี ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ ทั้งนี้ ฉางหงตั้งเป้าที่จะพลิกโฉมอนาคตของการผลิตอัจฉริยะ ด้วยการเดินหน้าผลักดันศักยภาพของเทคโนโลยีหลัก พร้อมผสานรวมการผลิตอัจฉริยะเข้ากับการค้าอัจฉริยะและการวิจัยและพัฒนาอันชาญฉลาด จากนั้นก็ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้ในการพลิกโฉมการดำเนินการทางธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การดำเนินการ การจัดการคุณภาพ และการให้บริการผู้บริโภค เพื่อให้ฉางหงก้าวขึ้นเป็นองค์กรที่เป็นเลิศทั้งในด้านประสิทธิภาพ การอนุรักษ์พลังงาน การลดการปล่อยมลพิษ และการเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ