ฉางหง (Changhong) ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในรายชื่อ 1 ใน 500 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดของจีน (China’s 500 Most Valuable Brands) ประจำปี 2566 โดยแบรนด์ได้รับการประเมินว่ามีมูลค่า 203,968 ล้านหยวน ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ผลการจัดอันดับดังกล่าวได้รับการเปิดเผยในระหว่างการประชุมแบรนด์โลก (World Brand Conference) ประจำปี 2566 ที่จัดโดยเวิลด์ แบรนด์ แล็บ (World Brand Lab) ในกรุงปักกิ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ เวิลด์ แบรนด์ แล็บ เป็นบริษัทในเครือและมีเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวคือ เวิลด์ เอ็กเซ็กคิวทีฟ กรุ๊ป (World Executive Group) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกด้านการตลาดดิจิทัลและการประเมินมูลค่าแบรนด์

ฉางหงลุยทำ R&D ด้านเทคโนโลยี ขยายการเติบโตในสาขาใหม่ ๆ

ฉางหงทำการวิจัยและพัฒนา (R&D) เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยในเดือนธันวาคม 2565 บริษัท ฯ พัฒนาชิปควบคุมอัจฉริยะ MCU ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน และยังได้พัฒนากลุ่มอุปกรณ์สมาร์ทโฮมให้ทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ฉางหงยังได้ขยายธุรกิจไปสู่สาขาใหม่ ๆ อย่างเช่น พลังงานหมุนเวียน เซมิคอนดักเตอร์ และระบบจัดเก็บข้อมูลแบบประมวลผล โดยทางเครือบริษัทประกอบด้วยบริษัทที่มีหุ้นซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ 7 บริษัท กับบริษัทที่จดทะเบียนในกระดานหุ้นที่ 3 ของจีน (China’s New Third Board) อีก 3 บริษัท และยังได้บ่มเพาะบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง 15 บริษัท ที่ให้บริการแก่แบรนด์ที่มีชื่อเสียงนับ 100 แบรนด์ และให้บริการผู้ใช้กว่า 200 ล้านคนทั่วโลก ลักษณะสำคัญของกลยุทธ์การทำธุรกิจของฉางหงคือ มุ่งสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันในการดำเนินงานทั้งหมด การพัฒนาทั้งการดำเนินธุรกิจและความสามารถอย่างเป็นระบบนี้มีส่วนสำคัญยิ่งในการสร้างแรงผลักดันให้เกิดการเติบโตของบริษัทฯ

‘ชิค’ เผยตำแหน่งใหม่ของแบรนด์ ที่มีทั้งความสมาร์ทและสไตล์

นอกจากมุ่งมั่นคิดค้นเทคโนโลยีอัจฉริยะล้ำสมัยแล้ว ฉางหงยังมุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อการออกแบบและความสวยงามของผลิตภัณฑ์อีกด้วย เมื่อเร็ว ๆ นี้ แบรนด์ชิค (CHiQ) ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียม ได้เปิดเผยถึงการวางตำแหน่งใหม่ของแบรนด์ว่า เป็นแบรนด์ที่ “สมาร์ทอย่างมีสไตล์” โดยมีเป้าหมายที่จะผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ากับการออกแบบอย่างมีสไตล์สำหรับสภาพแวดล้อมทั้งหมดภายในบ้านผลิตภัณฑ์ของชิคช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมและจัดการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้อย่างง่ายดาย โดยการดำเนินตามแนวทางที่ยึดผู้ใช้เป็นหลักทำให้แบรนด์สร้างการเชื่อมโยงระหว่างอุปกรณ์ทั้งหมดได้ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมอุปกรณ์ผ่านการสั่งการด้วยเสียงได้ และในขณะเดียวกัน ชิคก็มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนเครื่องใช้ในบ้านอัจฉริยะให้เป็นผลงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์และน่าดึงดูดใจ ซึ่งไม่เพียงแต่ตอบสนองวัตถุประสงค์ในการใช้งานเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงรสนิยมหรือสไตล์ส่วนตัวของผู้ใช้อีกด้วย

ฉางหงเร่งขยายทั้งตลาดและการดำเนินงานเพิ่มขึ้นทั่วโลก

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉางหงได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในหลายตลาด นอกจากโรงงานผลิตที่มีอยู่ 5 แห่งในยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว บริษัทฯ ยังมีแผนจะเพิ่มโรงงานในเม็กซิโกและโปแลนด์อีกด้วยนอกจากนี้ ฉางหงกำลังขยายการลงทุนในตลาดนอกประเทศจีน โดยเพิ่มความพยายามในการพัฒนาจอแสดงผลผลิตภัณฑ์ เครื่องซักผ้า และอุปกรณ์ปลายทางขั้นสูงที่ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT)การที่ฉางหงขยายตัวไปทั่วโลกโดยให้ความสำคัญต่อลูกค้าเป็นหลัก ทำให้รายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้นในปี 2565 และในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ผลผลิตรวมของบริษัทเติบโตขึ้นกว่า 30% และรายได้โดยรวมในตลาดนอกประเทศจีนเติบโตขึ้นกว่า 25% ส่วนรายได้จากการขายในออสเตรเลีย ยุโรป อินโดนีเซีย และตะวันออกกลาง ก็เติบโตขึ้นอย่างมากเช่นกัน การที่มูลค่าแบรนด์ของฉางหงเติบโตอย่างงดงามนั้น ไม่เพียงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการวางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์และความสามารถด้านเทคโนโลยีการผลิตอันชาญฉลาดเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงปรัชญาของแบรนด์ที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าอีกด้วย