งานเอเชลอน เอเชีย ซัมมิต ประจำปี 2566 จะจัดขึ้นในวันที่ 14-15 มิถุนายน 2566 ที่งานสิงคโปร์ เอ็กซ์โป
- ธีมประจำปี 2566 จะพูดถึงแนวทางที่อีโคซิสเต็มด้านเทคโนโลยีของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถใช้ในการสร้างธุรกิจทรงอิทธิพลที่แก้ไขปัญหาได้จริง พร้อมกับมุ่งเป้าไปที่การเติบโตอย่างยั่งยืน
- ภายในงานนี้จะมีการนำโปรแกรมท็อป100 กลับมาอีกครั้ง โดยออกแบบมาเพื่อเร่งการเติบโตของสตาร์ตอัปที่กำลังมาแรงในภูมิภาคนี้
- งานเอเชลอนจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 5,000 คนจากสตาร์ตอัปรายใหญ่ อาทิ มันนีสมาร์ต (MoneySmart), ดอกเตอร์ เอนีแวร์ (Doctor Anywhere), 500 โกลบอล (500 Global), เบน แอนด์ คัมพานี (Bain & Company), มองค์ส์ ฮิล เวนเจอร์ส (Monk’s Hill Ventures)
e27 แพลตฟอร์มสื่อเทคโนโลยีและสตาร์ตอัปที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ได้ประกาศเปิดตัวงานเอเชลอน เอเชีย ซัมมิต ประจำปี 2566 (Echelon Asia Summit 2023) ซึ่งจัดขึ้นที่งานสิงคโปร์ เอ็กซ์โป (Singapore EXPO) ในวันที่ 14-15 มิถุนายน 2566 โดยภายในงานระยะเวลา 2 วันนี้จะมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 5,000 คนจากทั่วเอเชีย ซึ่งเป็นตัวแทนจากบริษัทกว่า 200 แห่ง และเหล่าวิทยากรระดับโลกมากกว่า 100 คน เอเชลอนคืองานเทคโนโลยีที่ช่วยให้บริษัทสตาร์ตอัปต่าง ๆ ได้คบค้าสมาคม ขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และสร้างดีลการลงทุนใหม่ ๆ ทั่วอีโคซิสเต็มด้านเทคโนโลยีของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในปีนี้ ภายในงานจะมีการเสวนาเกี่ยวกับอนาคตของบริษัทเทคโนโลยีและอีโคซิสเต็มสตาร์ตอัปของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ว่าด้วยลักษณะความผันผวนของเทรนด์การลงทุนและการควบรวมและการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และภาคธุรกิจที่มีการเติบโตในระดับสูง อันเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดระยะเวลา 2 วันของงาน วิทยากรผู้เชี่ยวชาญของเอเชลอนกว่า 100 ชีวิตจะนำเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับเว็บ3.0 (Web3.0), ซูนนิคอร์น (Soonicorns) และเหล่าผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ภาคส่วนต่าง ๆ ในอนาคตและเทรนด์การลงทุน, M&A, ความยั่งยืน ตลอดจนการเติบโตและการปรับขนาด นอกจากนี้ ในงานจะมีเวิร์กช็อป, การอภิปรายแบบโต๊ะกลม, นิทรรศการ และการทำความรู้จักคนใหม่ ๆ เอเชลอน เอเชีย ซัมมิต ประจำปี 2566 จึงถือเป็นโลกแห่งโอกาสของบรรดาสตาร์ตอัปจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเหล่านักลงทุน
ในอดีตที่ผ่านมา งานเอเชลอน เอเชีย ซัมมิต ได้นำเสนอเรื่องราวของเหล่าผู้ก่อตั้งและฝ่ายบริหารระดับสูงจากบรรดาสตาร์ตอัปและธุรกิจเงินร่วมลงทุน (VC) ที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น แกร็บ (Grab), คาร์โร (Carro), นินจาแวน (Ninja Van), วีเวิร์ค (WeWork), ลาซาด้า (Lazada), ช็อปแบ๊ค (Shopback), ลาลามูฟ (Lalamove), อัลทาร่า เวนเจอร์ส (Altara Ventures), เวอร์เทค เวนเจอร์ส (Vertex Ventures), จัสโค (JustCo), มองค์ส์ ฮิล เวนเจอร์ส (Monk’s Hill Ventures), โกลเดน เกต เวนเจอร์ส (Golden Gate Ventures) และจังเกิล เวนเจอร์ส (Jungle Ventures)
นอกจากนี้ ในงานยังมีการนำโปรแกรมจัดอันดับ 100 บริษัท หรือที่เรียกว่า ท็อป100 (TOP100) กลับมาอีกครั้ง ซึ่งเหล่าสตาร์ตอัปที่ดีที่สุดในภูมิภาคจะประชันผลงานของตัวเองเพื่อคว้าโอกาสในการเป็นผู้ชนะในโปรแกรม ทั้งนี้ ท็อป100 เป็นโปรแกรมที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดีโดยได้รับการออกแบบมาเพื่อเฟ้นหา นำเสนอ และเร่งการพัฒนาของสตาร์ตอัปดาวรุ่งรุ่นต่อไปที่กำลังจะเกิดขึ้น บริษัทที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้ารอบสุดท้ายจากผู้สมัครกว่า 500 บริษัท และขณะนี้เป็นตัวแทนจากกว่า 10 ประเทศ จะมานำเสนอผลงานต่อหน้าตัวแทน 5,000 คน ซึ่งรวมถึงนักลงทุนชั้นนำ 25 ราย ตัวอย่างสตาร์ตอัปที่เคยติดอันดับท็อป100 และปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายไปแล้ว ได้แก่ ทูกิทากิ (Tookitaki), ไนตีไนน์ดอตโค (99.co), พิกอัปป์ (Pickupp), แอสไพร์ (Aspire), เอชทรี ไดนามิกส์ (H3 Dynamics), กลินท์ส (Glints)
ก่อนจะมาเป็นงานครั้งนี้ e27 ได้จัดงานพบปะขึ้น 5 ครั้งทั่วอาเซียน ได้แก่ ในสิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม และฟิลิปปินส์ เพื่อหารือเกี่ยวกับภูมิทัศน์ของสตาร์ตอัปในประเทศนั้น ๆ และพบว่าสตาร์ตอัปและอีโคซิสเต็มด้านเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจากผลกระทบหลังการระบาดของโควิด-19 โดยคาดว่าจะมีการเติบโตอยู่ที่ 4.8% ในปี 2566 โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดพรมแดนเศรษฐกิจอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการคาดการณ์จะเป็นไปในเชิงบวก แต่ก็ยังมีความท้าทายต่าง ๆ อยู่ เช่น เงินเฟ้อ, อัตราดอกเบี้ย ตลอดจนภูมิทัศน์การระดมทุนที่เปลี่ยนไป
“อีโคซิสเต็มด้านเทคโนโลยีตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาได้เติบโตขึ้นจากการลงทุนอันมหาศาลและการมุ่งให้ได้เม็ดเงินมากขึ้นในการระดมทุนรอบต่อ ๆ ไป และเน้นให้มูลค่ากิจการสูงขึ้น แต่ให้ความสนใจกับปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจและการเติบโตอย่างยั่งยืนเพียงน้อยนิด ปีที่แล้วจึงนับเป็นโอกาสดีที่เหล่าผู้ก่อตั้งและนักลงทุนจะได้เริ่มต้นใหม่และปรับโฟกัสใหม่ และเป็นโอกาสดีสำหรับอีโคซิสเต็มที่จะได้เริ่มใหม่และวางแผนสำหรับวิวัฒนาการของอีโคซิสเต็ม งานเอเชลอนมีเป้าหมายเพื่อหารือว่า อีโคซิสเต็มจะสามารถโฟกัสอยู่กับปัญหาสำคัญและเติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างไร” คุณโมฮาน เบลานี (Mohan Belani) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง e27 กล่าว