งานบางกอก อินแตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 งานแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “The Mobility of Joyful Experiences : ประสบการณ์แห่งความสนุกของทุกการเดินทาง” เปิดฉากอย่างเป็นทางการ ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ อิมแพ็ค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 โซนใหม่ ไฮเปอร์คาร์, ซูเปอร์คาร์, มอเตอร์โฮม, แกลมปิ้ง และอุปกรณ์ตบแต่งรถยนต์ ผู้ผลิตรถยนต์ และรถจักรยานยนต์จากทั้งยุโรป, ญี่ปุ่น, เอเชีย และสหรัฐฯ เข้าร่วมงานมากกว่า 50 แบรนด์ โดยเป็นรถยนต์จำนวน 36 แบรนด์ และ แบรนด์รถจักรยานยนต์ 14 แบรนด์
ในปีนี้ ทางผู้จัดงานฯ ยังได้พัฒนา LINE Official Account หรือ Line OA ในชื่อ GrandPrix.Group ขึ้นมาต่อจากปีที่แล้ว เพื่อเพิ่มความสะดวกในการซื้อบัตร หรือ ใช้ในการลงทะเบียนเข้าชมงานอีกทั้ง ยังได้มีการจัดทำระบบฐานข้อมูล Grand Prix Data Center และการนำ Ai ของระบบ FullLoop มาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้บริษัทฯ นำมาพัฒนาสิ่งที่จะนำเสนอต่อผู้เข้าร่วมงาน และผู้เข้าชมงานได้ดียิ่งขึ้น
คุณพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา รองประธานการจัดงานฯ และประธานเจ้าหน้าที่ด้านพัฒนาธุรกิจและการเงิน บริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ จากความร่วมมือกับ TikTok Thailand และ Mitsubishi เมื่อปีที่แล้ว มีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ปีนี้เราจึงจับมือร่วมกับ TikTok Thailand ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สำหรับทำ TikTok Motor Show Official และมีกิจกรรม TikTok Hashtah Challenge โดยกำหนดให้ใช้ 3 Hashtag ได้แก่ #MotorShow2024 , #GrandPrixMotorShow , #TikTokรักรถ ให้ได้ร่วมสนุก และชิงรางวัลกัน เพียงแค่มาทำ Content ในงาน Motor Show แล้วติด Hashtag #MotorShow2024 , #GrandPrixMotorShow , #TikTokรักรถ ครบทั้ง 3 Hashtag แล้วมีคนมากดหัวใจ (Like) มาที่สุด 10 อันดับแรก เรามีรางวัลจาก ผู้จัดงาน Motor Show และ TikTok มอบให้ นอกจากนั้นที่ Hall 4 เรายังมีพื้นที่บูธ TikTok Motor Show พร้อมกล้อง VDO 360 องศา สำหรับให้ Creator ได้ไปถ่าย VDO สำหรับโพสลง TikTok อีกด้วย”
ด้านคุณอริย์ธัช เพิ่มศิรินวโชติ Client Partnerships Lead – Automotive TikTok Thailand กล่าวว่า “TikTok รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมมือกับ กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล และมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ผ่านการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ สู่การทำการตลาดคอนเทนต์ที่หลากหลายให้กับวงการยานยนต์ได้เข้าถึงผู้ใช้งานจำนวนมากง่ายยิ่งขึ้นผ่านแพลตฟอร์ม TikTok ที่มีแผนการตลาดที่ครอบคลุมแบบ full funnel marketing solution ที่นอกจากจะช่วยสร้างการรับรู้ การพิจารณาสินค้า การเข้าถึงสินค้า และการตัดสินใจซื้อสินค้า ยังสามารถตอบโจทย์วงการรถยนต์ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่รับชมเว็บไซต์ของแบรนด์ และสามารถปิดการขายได้ผ่านความบันเทิงและการนำเสนอคอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์จากแพลตฟอร์ม TikTok และคาดหวังว่า จะมีผู้ใช้ TikTok หรือ TikTok Creator เข้ามาทำ Content ในงาน Motor Show เป็นจำนวนมาก ซึ่งก็จะเป็นการช่วยส่งต่อประสบการณ์ การรับชมงาน Motor Show จาก Offline สู่ Online ผ่านทาง Platform TikTok กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งจะช่วยกระจายข้อมูลข่าวสารภายในงาน Motor Show ออกไปสู่สายตาประชาชนเป็นวงกว้างอีกทางหนึ่ง”
ด้านคุณยอดชาย ซื่อวัฒนากุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักสื่อสารการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด “ในส่วนของค่ายแบรนด์รถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยอย่าง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ที่ให้การตอบรับร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรครั้งนี้ นายยอดชาย ซื่อวัฒนากุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักสื่อสารการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงวิสัยทัศน์ด้านการสื่อสารการตลาดของบริษัทว่า “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เดินหน้าให้ความสำคัญกับการทำการตลาดยุคใหม่ อย่างต่อเนื่องเสมอมา และเน้นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสำหรับตลาดประเทศไทยเน้นรูปแบบการสื่อสารที่เชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์และความสนุกสนานเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เป็นผู้สนับสนุนหลักของแคมเปญ เพราะเล็งเห็นความสำคัญของการเจาะตลาดสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ ด้วยการผสมผสานงานอีเวนท์ออนกราวด์รูปแบบเดิม เข้ากับอีเวนท์ออนไลน์ โดยมั่นใจว่ารูปแบบการสื่อสารการตลาดยุคใหม่นี้ จะเป็นการช่วยกระตุ้นทั้งดีมานด์และยอดขายยานยนต์ภายในประเทศปีนี้ได้”
สำหรับภายในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ ทางมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ขนทัพรถยนต์โฉมใหม่มาจัดแสดงที่งานมากมายพร้อมโปรโมชันสุดพิเศษในทุกรุ่น ประกอบด้วย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ใหม่ รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่งพร้อมระบบขับเคลื่อนขุมพลังฟูลไฮบริดใหม่ ซึ่งผสานการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงและเครื่องยนต์ใหม่ไว้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์สยังได้จัดแสดงเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดที่อยู่ภายใน มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ใหม่ ที่รวมทั้งสามสุดยอดเทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ มอเตอร์ไฟฟ้า ชุดแบตเตอรี่ และชิ้นส่วนขับเคลื่อนที่มอบสมรรถนะขับขี่และการควบคุมอันเหนือชั้นนอกจากขุมพลังฟูลไฮบริดยังมี 7 DRIVE MODE และ AYC ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง ในแบบ Mitsubishi e:MOTION ไฮไลท์ต่อมา มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ รุ่นปี 2024 มาพร้อมดีไซน์ภายนอกใหม่สไตล์สปอร์ตพรีเมียม โดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ Bi-LED พร้อมระบบปรับลำแสงไฟหน้ารถอัตโนมัติ แผงกันชนหน้า-หลังใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วดีไซน์ใหม่สีดำ พร้อมสัมผัสความเหนือระดับ ด้วยการตกแต่งภายในสีทูโทน ดำ-แดงเบอกันดี้ เบาะหนังสังเคราะห์ลาย Diamond Cut พร้อมคุณสมบัติ สะท้อนความร้อน Heat Guard พร้อมด้วยจอแสดงผล LCD ขนาด 8 นิ้ว ใหม่ เพิ่มทัศนวิสัยการมองเห็นและใช้งานง่าย พลาดไม่ได้สำหรับผู้ชื่นชอบการผจญภัยพร้อมไลฟ์สไตล์แบบพรีเมียม ภายในงาน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ยังได้ขนทัพรถกระบะ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ทุกรุ่นมาให้สัมผัสกันที่ บูท A9 ไฮไลท์รถกระบะปีนี้ ได้แก่ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด “บีสต์ โหมด” (BEAST MODE) โดดเด่นสะดุดตา สะท้อนความบึกบึนและทรงพลังในแบบฉบับรถกระบะที่แท้จริง ภายในงานยังมีการจัดแสดง รถออล-นิว ไทรทัน แรลลี่คาร์ ที่จะใช้ลงแข่งในการแข่งขัน เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ รถแข่ง ออล-นิว ไทรทัน แรลลี่คาร์ สร้างขึ้นจากรถกระบะ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ที่ผลิตในไทย รุ่นเดียวกับที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ ให้ขุมพลังแรงเร็วเต็มสมรรถนะ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 จัดขึ้นที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และอิมแพ็ค ฟอร์รั่ม ฮอล 4 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม 7 เมษายน 2567 โดยเปิดให้เข้าชมงานเวลาตั้งแต่เวลา 12.00 22.00 น. ในวันธรรมดา และจะเปิดให้เข้าชมงานตั้งแต่เวลา 11:00 -22.00 น. ในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชกา