ภาคการเกษตรถือเป็นฐานรากที่สำคัญอย่างยิ่งของเศรษฐกิจไทย โดยเมื่อพิจารณาในมิติมหภาค ภาคเกษตรสร้างรายได้ต่อระบบเศรษฐกิจของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเป็นตัวเลขที่สูง ไทยจึงเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรอันดับต้นๆ หรือกล่าวได้ว่าเป็นครัวที่สร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับทั้งคนทั่วโลก อย่างไรก็ตามปัจจุบันภาคการเกษตรของไทยต้องเผชิญการแข่งขันที่สูงขึ้นจากประเทศต่างๆ ทำให้ต้องมีการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้านการเกษตรโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคต เพื่อสร้างความรู้เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีการเกษตรเข้ามาใช้ และสร้างความเข้าใจว่าเกษตรกรไม่ใช่อาชีพที่งานหนัก เหนื่อย และรายได้น้อยอีกต่อไป
จากความจำเป็นดังกล่าว บริษัท ยันม่าร์ เอส. พี. จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านเครื่องจักรกลการเกษตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น จึงได้ร่วมกับ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร ให้แก่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ถึง 4 ขึ้นที่ศูนย์วิจัย สาธิต และฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาด้านเกษตรกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
โครงการนี้จัดขึ้นโดยมีผู้เชี่ยวชาญจากยันม่าร์คอยเป็นพี่เลี้ยงและให้ความรู้แก่น้องๆ โดยแบ่งนักศึกษาออกเป็น 4 กลุ่มเพื่อเข้าอบรมความรู้ในการจัดการแปลงพืชสวนในฐานต่างๆ ประกอบด้วย ในการผานบุกเบิก ผานพรวน การโรตารี และการโซนรถเกี่ยวนวดข้าว โดยใช้แทรกเตอร์รุ่น EF393 เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน สร้างรายได้เพิ่มด้วยผลผลิตที่สูงขึ้น และแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยน้องๆ จะได้รับทราบข้อมูล ชมการสาธิต และทดลองใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรด้วยตนเอง เพื่อเรียนรู้ว่าการบริหารจัดการด้านการเกษตรไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากอย่างที่คิด
นายชินจิ ซุเอนางะ ประธาน บริษัท ยันม่าร์ เอส.พี. จำกัด กล่าวว่า “ยันม่าร์ ไม่เพียงให้ความสำคัญกับการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรเท่านั้น แต่เรายังเล็งเห็นถึงการพัฒนาบุคลากรภาคการเกษตรของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการสานต่อให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก เราหวังว่าโครงการนี้จะช่วยให้เยาวชนได้เข้าใจถึงการนำเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรยุคใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อให้การทำเกษตรเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป”