รถยนต์มือสองยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกลำดับต้นๆ ของผู้บริโภคจำนวนไม่น้อย เห็นได้จากลักษณะเส้นกราฟความสนใจของคนไทยที่ค้นหาคำว่า ‘รถยนต์มือสอง’ บน Google มีการฟื้นตัว
ในไตรมาสสอง และกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกันกับช่วงก่อนล็อคดาวน์ตลอดครึ่งปีหลัง สัญญาณบวกนี้
จึงนับเป็น ‘โอกาส’ ที่ผู้ประกอบการรถยนต์มือสองทุกคนต้องรีบคว้าไว้ ไม่ใช่เพียงเพื่อ ‘อยู่รอด’ แต่ยังต้องสามารถนำมาต่อยอดธุรกิจ เตรียมพร้อมเพื่อตั้งรับ และ ‘เอาชนะ’ วิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นอยู่
เคียงข้างพันธมิตรในทุกสถานการณ์ นำโดย นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จัดงานสัมมนาธุรกิจให้กับผู้ประกอบการรถยนต์มือสอง
ทั่วประเทศกว่า 100 ราย ภายใต้ธีม “Krungsri Used Car Togeter, We Win” พร้อมเดินหน้าติดอาวุธทาง
ธุรกิจ โดยเชิญ 2 กูรูการตลาดชื่อดัง นายสโรจ เลาหศิริ Chief Marketing Officer และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Rabbit Digital Group จำกัด และนายสิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท RGB72 จำกัด ร่วมบรรยายในหัวข้อ “หมัดเด็ดธุรกิจ ทุกวิกฤตมีโอกาส” เพื่อเปิดมุมมองด้านการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคและตลาดรถยนต์มือสองยุค Now Normal พร้อมแนะแนวทางปรับตัวธุรกิจจากออฟไลน์สู่ออนไลน์
ให้เครือข่ายพันธมิตรผู้ประกอบการรถยนต์มือสองของกรุงศรี ออโต้ นำไปปรับใช้ทำการตลาดและมัดใจลูกค้า
คนสำคัญ โดยมีประเด็นที่น่าสนใจ 5 ข้อ ดังนี้
- ลงทุนด้านออนไลน์และพัฒนาฐานข้อมูล: อย่าตระหนกหากพบว่า ลูกค้ามาดูรถน้อย เพราะวิกฤตนี้ชี้ให้เห็น
แล้วว่า โอกาสในการสร้างการรับรู้และตัวตนของธุรกิจสามารถทำได้จากหลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดออนไลน์ที่กำลังเติบโตโดดเด่น เห็นได้จากมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยในปีนี้ที่คาดว่าอาจสูงขึ้นถึง 35% จากปีก่อนหน้า[1] ‘จุดใดที่ลูกค้าจะติดต่อกับธุรกิจเราได้’ ต่างหาก คือสิ่งที่เจ้าของกิจการควรให้ความสำคัญ เช่น
การเร่งสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจบนโลกออนไลน์ และการผลักดันให้เว็บไซต์อยู่หน้าแรกของการค้นหา
สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ขณะที่การวางแผนเก็บข้อมูลลูกค้าเชิงลึกอย่างเป็นระบบไปพร้อมๆ กัน เช่น พฤติกรรมการใช้รถ งบประมาณ สิ่งที่ต้องการหรือเป็นกังวล จะช่วยให้การเข้าถึงกลุ่มลูกค้า
ในอนาคตมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ข้อมูลจาก “Priceza Virtual Conference สรุปภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซไทย ปี 2019 และทิศทางปี 2020 ในช่วงสถานการณ์โควิด-19” เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563
2. เน้นสื่อสารที่ประโยชน์ใช้สอย: เมื่อผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ ‘ความจำเป็น’ มากกว่าการตามหา
#ของมันต้องมี เจ้าของธุรกิจจึงควรใช้โอกาสนี้ในการปรับกลยุทธ์การสื่อสาร เน้นการตลาดแบบอิงเหตุผล ประโยชน์ใช้สอย หรือความคงทน เพื่อสร้างคุณค่า (Value) ให้ลูกค้ารู้สึกว่า ‘ทำไมรถมือสองคันนี้ถึงมีความจำเป็นต่อชีวิต
และจิตใจของพวกเขา’ โดยอาจจะจูงใจด้วยเหตุผลด้านความสะดวกและสุขภาพอนามัย เช่น การเดินทาง
ด้วยรถยนต์ส่วนตัวจะช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อโรค ความคุ้มค่าเรื่องราคา และโอกาสในการนำรถยนต์มาประกอบอาชีพหรือสร้างรายได้เสริมในอนาคต เป็นต้น
- ใช้ภาพถ่ายกระตุ้นยอดขาย เนื้อหาไม่ยัดเยียดขายของ: คนไทยเกินครึ่งมีพฤติกรรมใช้รูปภาพในการค้นหาข้อมูล (Image Recognition) ติดอันดับ 5 ของโลก[1] ดังนั้น การใช้รูปภาพที่มีรายละเอียดและความคมชัดสูง จะช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหารุ่นรถเจอได้โดยง่าย และสามารถซูมภาพเพื่อดูรายละเอียดของรถได้ นอกจากนี้
การนำเสนอเนื้อหาควรมีหลากหลายรูปแบบและไม่ควรขายตรงจนเกินไป อาจเน้นการสร้างบรรยากาศให้คนดูรู้สึกอยากเป็นเจ้าของรถมากขึ้น หรือนำเสนอข้อมูลที่จะช่วยแก้ปัญหาของลูกค้า เช่น วิธีการดูรถยนต์มือสองอย่าง
มืออาชีพ เพื่อแสดงถึงความจริงใจและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในยุคที่มองหาความคุ้มค่าเป็นหลัก - รักษาฐานลูกค้า เชื่อมต่อทุกช่องทางบริการ: การตลาดในยุคที่ลูกค้ามาไวไปไว การพัฒนางานขายและ
การบริการลูกค้าสัมพันธ์จำเป็นต้องทำอย่างบูรณาการในทุกช่องทาง นอกจากนี้ ยังต้องเร่งพัฒนาไหวพริบและความสามารถของคนในองค์กร เพื่อให้สามารถปรับตัวอย่างเท่าทันและไม่พลาดโอกาสในการปิดการขายในเวลา
ที่ใช่และเหมาะสม เช่น พนักงานขายผ่านโทรศัพท์ต้องสามารถบอกข้อมูลที่พูดคุยกับลูกค้าครั้งล่าสุด หรือสามารถประสานงานให้ผู้ที่รับเรื่องคนเดียวกันตอบข้อซักถามและติดต่อเพื่อแนะนำรุ่นรถได้อย่างทันท่วงที บริการที่
ไร้รอยต่อเช่นนี้จะช่วยสร้างความประทับใจ ทำให้ลูกค้าสบายใจที่จะสอบถามมากขึ้น และมีแนวโน้มสูงที่จะตัดสินใจซื้อในที่สุด
ข้อมูลจาก https://wearesocial.com/blog/2020/07/digital-use-around-the-world-in-july-2020