ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทเมโทรแมชีนเนอรี่ ดีลเลอร์เพียงผู้เดียวในประเทศ ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายแคตเตอร์พิลล่าร์ (Caterpillar) เครื่องจักรกลหนักคุณภาพระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เดินหน้ารุกธุรกิจแบบเต็มสูบ หลังปรับโครงสร้างทีมบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด วางเกมรุกเข้าถึงลูกค้าอย่างครอบคลุมทั่วประเทศ ส่งผลให้ปี 65 สามารถสร้างยอดขายให้เติบโตภายในกลุ่มกว่า 3 หมื่นล้าน ซึ่งแบ่งเป็นในประเทศไทย 20% และในประเทศจีน, ลาว และกัมพูชา อีก 80% มั่นใจด้วยศักยภาพทีมบริหารคุณภาพ และความหลากหลายของเครื่องจักรกลหนักและสินค้าอะไหล่รวมถึงงานบริการ ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพรองรับความต้องการของตลาด จะเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืนจากปัจจุบันสู่อนาคต
นายวีระ บูรพชัยศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท เมโทรแมชีนเนอรี่ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 45 ปี ที่ กลุ่มบริษัทเมโทรแมชีนเนอรี่ หรือเมโทร แคต โชว์ศักยภาพความแข็งแกร่งครองความเป็นผู้นำตลาดเครื่องจักรกลหนักคุณภาพระดับโลกตลอดจนได้รับความนิยม และเชื่อมั่นจากผู้ประกอบการทุกประเภท ถือเป็นแรงผลักดันหลักที่ทำให้ประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี โดยบริษัทฯ ได้มีการศึกษาและค้นคว้าวิจัย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และงานบริการให้ตอบรับต่อความต้องการของลูกค้า และทิศทางการเปลี่ยนไปของพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งกลยุทธ์ธุรกิจดังกล่าวได้สร้างการเติบโตให้แก่บริษัทฯ ได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้แนวโน้มภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยปี 2566 นั้น บริษัทฯ คาดการณ์ว่าการก่อสร้างที่ครอบคลุมการดำเนินการของภาครัฐและเอกชน จะมีมูลค่าการเติบโตประมาณ 1.48 ล้านล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปี 2565 “ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทเมโทรแมชีนเนอรี่ รับผิดชอบในการทำตลาดที่เป็นตัวแทนจำหน่ายแคตเตอร์พิลล่าร์ (Caterpillar) เครื่องจักรกลหนักรวมถึงสินค้าในงานอะไหล่และงานบริการ ครอบคลุมทั้งในประเทศจีนตะวันตก, ลาว และกัมพูชา โดยได้มีการปรับโครงสร้างทีมผู้บริหาร ทีมงานการตลาด และพนักงานขายในแต่ละเขตให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ตลอดจนได้เพิ่มทีมงานสนับสนุนทางด้านเทคนิค เพื่อเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้ความรู้กับลูกค้า มีการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจให้ตอบโจทย์กับความต้องการของตลาด รวมไปถึงการปรับโครงสร้างทางด้านราคา และวางกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับ กลุ่มสินค้าต่างๆ นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มกลยุทธ์ทางด้านการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการตลาดให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค รวมไปถึงการเพิ่มช่องทางการรับรู้ของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง” นายวีระ กล่าวเสริม
ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้มีการขยายช่องทางการติดต่อผ่านทางออนไลน์สำหรับลูกค้าที่มีความสนใจในผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line OA และ Call Center โดยในปี 2566 มีแผนที่ จะมุ่งเน้นลูกค้าตามประเภทธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงตามต้องการ ซึ่งแต่เดิมไม่ได้มีตัวเลือกที่หลากหลายให้แก่ลูกค้า แต่ปัจจุบันได้พัฒนาทั้งเครื่องจักรและอะไหล่รวมถึงงานบริการให้รองรับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้พัฒนาแพลตฟอร์ม My.CAT.Com ขึ้นเพื่อใช้เป็นศูนย์รวมข้อมูลการใช้งานบนระบบออนไลน์สำหรับเจ้าของเครื่องจักรกลหนัก ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทั้งประวัติการบริการ, รายการอะไหล่ รวมถึงการบำรุงรักษาและแจ้งเตือน เพื่อความสะดวกของลูกค้า และบริการสั่งซื้ออะไหล่ออนไลน์ผ่านร้านค้าออนไลน์อย่าง Parts.cat.com ที่ลูกค้าสามารถซื้ออะไหล่ได้ง่ายสะดวก รวดเร็ว เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการขายและถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะเข้ามาใช้ขับเคลื่อนในการผลักดันยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน“สำหรับ ผลประกอบการของกลุ่มบริษั
ทเมโทรแมชีนเนอรี่ ในช่วงปี 2565 เดินไปในทิศทางบวก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี
ที่ผ่านมา และสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่
าประมาณการที่ตั้งไว้ รวมทั้งยังสามารถเพิ่มส่วนแบ่
งทางการตลาดได้อย่างน่าพอใจ”
นายวีระกล่าวถึงความสำเร็จในปีที่ผ่านมา “บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าปรับรู
ปแบบการดำเนินธุรกิจให้เข้ากั
บยุคสมัยเพื่อตอบสนองต่อความต้
องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ผ่านมาทำให้บริษัทฯ ได้ปรับแนวทางการดำเนินงานเพื่
อให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่
ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้
ามาปฏิรูปการบริการภายใต้แนวคิด “YOU ARE ALWAYS CONNECTED” เนื่องจากปัจจุบันโลกกำลังอยู่
บนคลื่น Digital technology เพื่อเป็นการปรับตัวตามพฤติ
กรรมผู้บริโภคที่เปลี่
ยนมาสนใจช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยบริษัทฯ พร้อมตอบโจทย์ความต้
องการตามพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อเพิ่มความมั่นใจ สามารถติดต่อได้ง่าย สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้นในทุกที่ทุกเวลา เพิ่มศักยทางการขายเพื่อขับเคลื่
อนผลักดันสร้างความยั่งยื
นในการเติบโตและเสริมความมั่
นคงสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องจั
กรกลหนักของประเทศไทย
โดยทิศทางในการทำการตลาดในปีนี้ บริษัท เมโทรแมชีนเนอรี่ จำกัด ยังคงมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2566 รวมถึงโอกาสการขยายตัวของการลงทุนภาครัฐในโครงการเมกะเทรนด์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องสามารถเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนเป้าหมายทางการขายและผลักดันเป้าให้เติบโตกว่า 20% โดย บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายของกลุ่มบริษัทเมโทรแมชีนเนอรี่ได้ทะลุเป้ากว่า 36,000 ล้านบาท ในปี 2566 พร้อมฉายภาพให้เห็นถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่า “บริษัทฯ ได้มีการวางแนวทางแผนกลยุทธ์โดยมุ่งเน้นใน 3 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย 1.วางแผนการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น เช่น “GX Model” เครื่องจักรรุ่นนี้ช่วยให้ทำงานได้ไวขึ้น และประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงมากขึ้น แข็งแรง ทนทาน และเรายังมีการมุ่งเน้นในเรื่องประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับเป็นหลักเพื่อการเข้าถึงลูกค้าอย่างต่อเนื่องเพราะเป็นรุ่นหลักที่ได้รับความสนใจและเสียงตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 2.กำหนดกลุ่มเป้าหมายการทำตลาดสินค้าอะไหล่รวมถึงการบริการหลังการขายให้ชัดเจน และเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ รวมถึงการจัดโซลูชันตอบโจทย์ลูกค้าให้มากกว่าราคาสินค้าโดยเฉพาะบริการหลังการขาย โดยการปรับกลยุทธ์ให้เข้าสู่เทรนด์ Digital technology ใช้เชื่อมโยงติดต่อสื่อสารและเข้าถึงลูกค้าภายใต้แนวคิด “YOU ARE ALWAYS CONNECTED” ซึ่งเน้นการขายสินค้าอะไหล่บน Platform online เป็นหลักบนเว็บไซต์ PARTS.CAT.COM และเชื่อมโยงกับลูกค้าด้วย MY.CAT.COM ที่เป็นศูนย์รวมข้อมูลเครื่องจักรกลหนักของลูกค้าง่ายทุกการเชื่อมต่อทุกการเข้าถึง 3.บริษัทฯ มีพัฒนาศูนย์บริการและจำหน่ายสินค้าถึง 32 สาขาทั่วประเทศไทย รวมถึงศูนย์ฝึกอบรมขนาดใหญ่ ณ เมโทร แคต สาขาบางนาตราด กม.20 เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดในอนาคต โดยคาดการณ์ว่าในปี 2566 จะมีการเติบโตทางด้านยอดขายด้านเครื่องจักรกลหนักและอะไหล่รวมถึงงานบริการหลังการขาย ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักๆ ในการขยายส่วนแบ่งทางการตลาดให้เพิ่มมากขึ้น” นายวีระกล่าวสรุป
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมและกิจกรรมต่างๆ ของ เมโทร แคต ได้ที่ www.facebook.com/metrocat.th และ www.metrocat.com/th/
Post Views: 182