งานหัวเว่ย คอนเนกต์ ประจำปี 2565 หรือ HUAWEI CONNECT 2022 เปิดฉากแล้ววันนี้ที่กรุงเทพฯ โดยคุณเคน หู (Ken Hu) ประธานหมุนเวียนของหัวเว่ย ได้กล่าวคำปราศรัยสำคัญในหัวข้อ “Unleash Digital” (ปลดปล่อยพลังแห่งดิจิทัล) ขณะที่คุณจาง ผิงอัน (Zhang Ping’an) ซีอีโอของหัวเว่ย คลาวด์ (Huawei Cloud) ได้ประกาศแผนเปิดตัวรีเจียนใหม่ ๆ ในอินโดนีเซียและไอร์แลนด์ พร้อมเผยโฉมแผนระบบนิเวศอย่าง “Go Cloud, Go Global” (ลุยโลกด้วยคลาวด์) และตอกย้ำพันธสัญญาในการให้บริการทุกสิ่งแบบ Everything as a Service ส่วนคุณแจ็กเกอลีน สือ (Jacqueline Shi) ประธานฝ่ายการตลาดและบริการขายระดับโลกของหัวเว่ย คลาวด์ เปิดเผยว่า หัวเว่ย คลาวด์ จะเปิดตัวนวัตกรรมใหม่กว่า 15 รายการทั่วโลก ครอบคลุมทั้งคลาวด์เนทีฟ การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ธรรมาภิบาลข้อมูล คอนเทนต์ดิจิทัล การพัฒนาซอฟต์แวร์ และบริการแพลตฟอร์ม (aPaaS) อย่างมาโครเวิร์ส (MacroVerse)
คุณเคน หู เปิดเผยว่า องค์กรต่าง ๆ ควรนำระบบคลาวด์มาใช้เพื่อให้พัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด เมื่อเทคโนโลยีอัจฉริยะดิจิทัลคืออนาคต โดยหัวเว่ย คลาวด์ ได้ผสานรวมบริการกว่า 240 รายการ และเอพีไอ (API) กว่า 50,000 รายการ เพื่อนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ การพัฒนาแอปพลิเคชัน และบิ๊กดาตา รวมถึงเครื่องพัฒนาต่าง ๆ ยกขึ้นคลาวด์ นวัตกรรมและความเชี่ยวชาญของหัวเว่ย คลาวด์ จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ย้ายขึ้นคลาวด์ได้เร็วขึ้นและดีขึ้น หัวเว่ย คลาวด์ มีความมุ่งมั่นในการสร้างเครือข่ายระดับโลกหนึ่งเดียว ซึ่งทำให้เข้าถึงบริการต่าง ๆ บนหัวเว่ย คลาวด์ จากทุกที่ทั่วโลกภายในเวลาเพียง 50 มิลลิวินาที องค์กรต่าง ๆ จะไม่จำเป็นต้องสร้างศูนย์ข้อมูลของตนเองอีกต่อไป โดยหัวเว่ย คลาวด์ จะเปิดตัวรีเจียนใหม่ในอินโดนีเซียและไอร์แลนด์ และภายในปลายปีนี้ หัวเว่ย คลาวด์ จะมีรีเจียนรวมกัน 29 จุด และพื้นที่ให้บริการ (AZ) 75 แห่ง ครอบคลุมกว่า 170 ประเทศและภูมิภาค
คุณจาง ผิงอัน ยังได้เปิดตัวแผน “Go Cloud, Go Global” โดยหัวเว่ย คลาวด์ มุ่งให้บริการทุกสิ่งแบบ Everything as a Service เพื่อแบ่งปันประสบการณ์เจาะจงแต่ละท้องถิ่นที่จำเป็นในการให้บริการในกว่า 170 ประเทศและภูมิภาค พร้อมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับธุรกิจและอุตสาหกรรมในภูมิภาคหลัก ๆ พร้อมมอบเทคโนโลยีและโซลูชันสนับสนุนอีโคซิสเต็มระดับโลก ความพยายามเช่นนี้จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ใช้คลาวด์ได้ดีขึ้น และประสบความสำเร็จในการลุยโลกมากขึ้น หัวเว่ย คลาวด์ ยึดมั่นในหลักการ “จากท้องถิ่นให้ท้องถิ่น” เพื่อสร้างระบบนิเวศดิจิทัลระดับโลก โดยในอีก 3 ปีข้างหน้า หัวเว่ย คลาวด์ จะให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพที่มีแววอย่างน้อย 10,000 รายทั่วโลก ด้วยการสนับสนุนต่าง ๆ เช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพต้นทุน การสนับสนุนทางเทคนิค การฝึกอบรมผู้ประกอบการ และทรัพยากรธุรกิจอื่น ๆ ปัจจุบัน มีองค์กรกว่า 120 รายในเอเชียแปซิฟิกเข้าร่วมโครงการสตาร์ทอัพของหัวเว่ย คลาวด์ แล้ว
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังใช้แพลตฟอร์มระดับแถวหน้าในอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมคลาวด์ โดยคุณแจ็กเกอลีน สือ ได้เปิดตัวบริการใหม่ของหัวเว่ย คลาวด์ รวม 15 รายการ ไม่ว่าจะเป็นซีซีอี เทอร์โบ (CCE Turbo) บริการคลาวด์เนทีฟแบบทุกหนทุกแห่ง (UCS) โซลูชันผานกู่ (Pangu) เพื่อพยากรณ์คลื่นลมทะเล ดาตาอาร์ทส์ เลคฟอร์เมชัน (DataArts LakeFormation) เวอร์ชวล ไลฟ์ (Virtual Live) โค้ดเช็ค แอนด์ คลาวด์เทสต์ (CodeCheck and CloudTest) คูเมสเสจ (KooMessage) คูเสิร์ช (KooSearch) และคูแกลเลอรี (KooGallery) ในวันข้างหน้า หัวเว่ย คลาวด์ จะเดินหน้าให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญ แก่อุตสาหกรรมต่าง ๆ ต่อไป เพื่อปลดล็อกความเป็นดิจิทัลด้วยบริการทุกสิ่ง และวางรากฐานคลาวด์ในโลกอัจฉริยะ