“SYMC” เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 กวาดรายได้รวมมูลค่า 402 ล้านบาท เติบโตแบบ Double-Digit ทั้งในด้านของรายรับที่เพิ่มขึ้น17% และกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการขยายตัวเพิ่มขึ้นของฐานลูกค้าผู้ใช้บริการโครงข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ของกลุ่มลูกค้าองค์กรที่ส่งผลต่อเนื่องจากปีก่อน ตลอดจนการเติบโตของบริการด้าน ICT Solutions ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ นายอเล็กซ์ โลท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมชั้นนำหรือ SYMC กล่าวว่า “บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีในไตรมาส 1/2565 โดยมีรายได้รวมมูลค่า 402 ล้านบาท เติบโตขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ EBITDA หรือรายได้จากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าจัดจำหน่ายอยู่ที่ 162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% แม้ว่าต้นทุนในการเชื่อมต่อระหว่างประเทศเพื่อการรองรับลูกค้าใหม่ รวมถึงต้นทุนขายที่เกิดจากการเติบโตของยอดขายของส่วนธุรกิจ ICT Solutions จะเพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามกลับส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 29 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44% จากการขยายตัวด้วยรายได้ที่สูงขึ้น ควบคู่ไปกับการบริหารงานและการจัดการทางด้านต้นทุนทางการเงินที่ดีของเรา
ทั้งนี้ บริษัทมีการเติบโตเป็นบวกอย่างต่อเนื่องมาทุกไตรมาส โดยหากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หรือไตรมาส 4/2564 นั้น มีรายรับเพิ่มขึ้น 4% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสูงถึง 28% ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการบริหารงานเพื่อธุรกิจที่มีความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเดินหน้าขับเคลื่อนโอกาสที่มากขึ้นอีกในไตรมาสต่อๆ ไป” สำหรับภาพรวมของการเติบโตนั้น มาจากเทรนด์ของ Digital Transformation ในประเทศไทยที่การบริการด้านดิจิทัลต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนการเติบโตของดิจิทัลคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้าผู้ใช้บริการนับตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 เป็นต้นมา ที่เปลี่ยนไปตามวิถีใหม่ (New Normal) ทำให้มีการ Work From Home หรือ Work From Anywhere เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าองค์กรหรือธุรกิจผู้ให้บริการระหว่างประเทศมีความต้องการใช้งานด้านโครงข่ายมากขึ้นไปด้วย ดังนั้น เราจึงมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์ที่ดีในการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยโครงข่ายคุณภาพสูง มีเสถียรภาพที่สามารถเชื่อมต่อภายในประเทศและระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อระหว่างองค์กรตลอดจนการเชื่อมต่อผู้ให้บริการในต่างประเทศที่ทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว รองรับความต้องการในการใช้งานได้หลากหลาย
ขณะเดียวกัน ธุรกิจการให้บริการด้าน ICT Solutions เริ่มมีการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ แสดงให้เห็นถึงความต้องการของลูกค้าองค์กรที่มีความต้องการโซลูชั่นส์ที่หลากหลายที่เหมาะกับธุรกิจโดยเฉพาะ อาทิ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจประกันภัย กลุ่มการเงิน และหลากหลายอุตสาหกรรม ที่ต้องการบริการแบบ One Stop Service ที่นอกจากจะเลือกใช้บริการโครงข่ายของซิมโฟนี่แล้วยังต้องการโซลูชั่นส์ทางด้าน ICT อย่างครบวงจรอีกด้วย
นายอเล็กซ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การสร้างประสบการณ์ดิจิทัลใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าเป็นสิ่งที่สร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีความยั่งยืนในอนาคต เราจึงมุ่งมั่นที่จะมอบบริการโครงข่ายคุณภาพที่ดีที่สุดด้วยประสบการณ์ของเราในธุรกิจโทรคมนาคม และสร้างสรรค์บริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าด้วยโซลูชั่นต่างๆ สำหรับลูกค้าองค์กรทั้งในประเทศและผู้ให้บริการในระดับภูมิภาค โดยบริษัทตั้งเป้าหมายสร้างกำไรสุทธิในปี 2565 ด้วยการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก เพื่อมอบผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นของเราอย่างต่อเนื่อง”