บริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยคุณวันชัย เพ็ชรฤทธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรกิจประกันภัยรถยนต์ ออกแผนประกันรถยนต์ “Smart Motor” ประกันรถยนต์ชั้น 1 รูปแบบใหม่ที่เข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง เจาะกลุ่มคนใช้รถน้อย เนื่องจาก Work From Home หรือผู้บริโภคที่มีรถมากกว่า 1 คัน และอาจมีการสลับใช้ ซึ่ง Smart Motor ยังเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์น้ำมันแพงในปัจจุบัน หรือต้องการใช้รถเท่าที่จำเป็น แต่ไม่ต้องการจ่ายเบี้ยก้อนโตแบบเดิมๆ ตามคอนเซปท์ “ขับเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น ขับก่อนจ่ายทีหลัง จ่ายเบี้ยประกันตามระยะทางที่ขับจริง”
คุณวันชัย กล่าวว่า “จุดเด่นของประกันรถยนต์ “Smart Motor” นอกจากความคุ้มครองจัดเต็มเหมือนประกันรถยนต์ชั้น 1 ทั่วไปที่สามารถเลือกได้ทั้งซ่อมห้าง และซ่อมอู่แล้ว ยังช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดค่าเบี้ยประกันได้โดยไม่ต้องจ่ายเบี้ยก้อนโต เนื่องจากค่าเบี้ยประกันภัยจะคิดตามระยะทางที่ใช้งานจริง และสามารถตรวจสอบจำนวนระยะทางที่ขับ พร้อมประเมินค่าใช้จ่ายได้ตลอดเวลาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ “@SmartMotor” แทนการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติม และเชื่อว่าผู้บริโภคคนไทยส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการใช้แอปพลิเคชันไลน์เป็นอย่างดีอยู่แล้ว นอกจากนั้น Smart Motor ยังได้นำเทคโนโลยีมาผสมผสานช่วยในการคำนวณ
ระยะทางได้อย่างแม่นยำ เพียงแค่ติดตั้งอุปกรณ์ Smart Motor ผ่านพอร์ต USB ในรถยนต์ อุปกรณ์จะทำหน้าที่เก็บระยะทางที่ขับขี่โดยอัตโนมัติและไม่จำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์ผ่านส่วนอื่นของรถยนต์แต่อย่างใด และในทุกๆ สิ้นเดือน ระบบจะแจ้งเตือนเพื่อให้ชำระเบี้ยรายเดือนผ่านแอปพลิเคชันไลน์และทาง SMS ซึ่งลูกค้าจะสามารถเลือกชำระค่าเบี้ยรายเดือนได้ผ่านหลากหลายช่องทาง”
คุณวันชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับเบี้ยประกันภัยที่ลูกค้าต้องจ่ายแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. เบี้ยประกันพื้นฐาน (เบี้ยพื้นฐานชำระงวดแรกเพียงครั้งเดียว ต่อระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี) และ 2. เบี้ยประกันรายเดือน ที่ต้องชำระตามระยะทางที่ขับขี่ต่อเดือน (ระยะทางที่ใช้งานจริงในแต่ละเดือน (กิโลเมตร) x เบี้ยประกันภัยต่อ 1 กิโลเมตร) ท่านที่สนใจสามารถทดลองคำนวณเบี้ยประกันหรือซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.falconinsurance.co.th/motor/smart-motor ได้ทันที หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 02 037 9988 หรือ Line@FalconCS” (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
สำหรับการซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์ และเลือกรับกรมธรรม์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Policy) ยังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดใช้ทรัพยากรกระดาษ โดยค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งจากการผลิตชุดกรมธรรม์แบบกระดาษ จะได้นำไปบริจาคสมทบทุนให้กับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย