มิตซูบิชิ อีเล็คทริค เปิดแผนเสริมแกร่งโครงสร้างธุรกิจ พร้อมรุกตลาดปี 2565 จัดทัพผลิตภัณฑ์ใหม่ 5 กลุ่มสู้ศึก อัดแคมเปญโฆษณา และออนไลน์เต็มสูบ หวังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ครบทุกเซ็กเม้นท์ ตั้งเป้ายอดขายเติบโตกว่า 120% มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา เตรียมรุกหนักรับต้นปี 2565 เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศอันดับ 1 ของไทย ส่งโปรดักส์ใหม่ 5 ไลน์อัพ รุกตลาดเครื่องปรับอากาศรุ่นท็อปใหม่ล่าสุด มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม 3D Move-eye Kiwami AW Series ชูจุดแข็งด้านนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ Smart Life Style ด้วยเซ็นเซอร์อัจฉริยะมากถึง 32 จุด ตรวจจับอุณภูมิและความเคลื่อนไหวได้แม่นยำ เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์รุ่นใหม่ Mr. Slim Standard Inverter M-Series โดดเด่นด้านการประหยัดพลังงาน ตู้เย็น 2 ประตู ฟีเจอร์ใหม่ในราคาสุดคุ้มรุ่น FS45, FC38 พัดลมดีไซน์ทันสมัย และเครื่องฟอกอากาศสู้โควิด-19 จากประเทศญี่ปุ่น พร้อมอัดงบการตลาดกว่าพันล้านบาท มุ่งสร้างการรับรู้ มั่นใจกลยุทธ์หนุนยอดขายปี 2565 โตกว่า 120%
นายชินจิ คามิยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้วิถีชีวิตผู้คนในประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะวิถีการทำงานที่ต้องปรับสู่รูปแบบการทำงานจากที่บ้าน หรือ Work From Home และการรับประทานอาหารที่บ้านมากขึ้น บริษัทฯ จึงนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน โดยในปีนี้ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์หลากหลายไลน์อัพ อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศภายในบ้าน ตู้เย็น พัดลม พัดลมระบายอากาศ เครื่องฟอกอากาศ รวมทั้งเครื่องปรับอากาศ และระบบปรับอากาศเชิงพาณิชย์ เป็นต้น
นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ใหม่ บริษัทฯ ยังมุ่งยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างธุรกิจ ทั้งระบบโลจิสติกส์และบริการหลังการขาย โดยในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ ตั้งแต่การสร้างคลังสินค้า เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าทางภาคเหนือขึ้นที่จังหวัดลำปาง ในปี 2562 และได้สร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ในเขตภาคอีสานขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อเดือนพฤศจิกายน ในปี 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้สามารถลดเวลาในการส่งมอบสินค้าได้รวดเร็ว มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ด้านบริการหลังการขาย ได้ลงทุนกว่า 60 ล้านบาท เพื่อพัฒนานำระบบ “Online service system” เข้ามาใช้ ช่วยให้กระบวนการทำงานทุกขั้นตอนตั้งแต่รับเรื่องแจ้งซ่อมจากลูกค้าไปจนถึงซ่อมเสร็จเป็นไปอย่างรวดเร็ว ช่วยย่นระยะเวลาและตอบสนองต่อการซ่อมบริการได้ดียิ่งขึ้น
ด้านยอดขายของบริษัทฯ ในปีงบประมาณ 2564 (เมษายน 2564 – มีนาคม 2565) จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบ แต่อย่างไรก็ตาม เครื่องปรับอากาศภายในบ้านซึ่งเป็นสินค้าหลัก ยังคงสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งไว้ได้ ด้านตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในปี 2564 หดตัวลงโดยมีอัตราการเติบโตเพียง 93% เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งบริษัทฯ ก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงไตรมาส 2 (กรกฎาคม – กันยายน) และคาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายจะอยู่ที่ 95% ณ สิ้นปีงบประมาณ 2564
ทั้งนี้ในปี 2565 เป็นต้นมา จากผลกระทบของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน ทำให้เรายังคงเผชิญกับสถานการณ์ ที่ไม่แน่นอน คาดการณ์ว่าความต้องการในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า (ที่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเชิงพาณิชย์) จะกลับมามีสภาพใกล้เคียงกับปี 2562 ได้หลังปี 2566 ดังนั้นการขายในปีงบประมาณ 2565 นี้ (เมษายน 2565 – มีนาคม 2566) บริษัทฯ จึงยังคงมุ่งเน้นการเสริมฟังก์ชั่น เพิ่มไลน์อัพผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมถึงยกระดับด้านการขนส่งโลจิสติกส์และงานบริการหลังการขาย พร้อมทุ่มงบประมาณส่งเสริมการขายกว่า 1,100 ล้านบาท เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการขายให้เติบโตกว่าปีที่ผ่านมาในอัตรา 120%”
“ด้านแผนงานธุรกิจทั้งในระยะกลางและระยะยาว บริษัทฯ มุ่งเน้นการทำตลาดในธุรกิจ B2B โดยเน้นเสริมทุน และทรัพยากรที่สร้างความเจริญเติบโตให้ยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ และมีแผนที่จะขยายศูนย์บริการสาขา “สำนักงานสนับสนุนลูกค้าโครงการระบบปรับอากาศซิตี้มัลติ” ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ (ปัจจุบัน 6 สาขา และจะเพิ่มให้มี 8 สาขาภายในปี 2568) พร้อมนำเสนอคุณค่าใหม่ ๆ แก่ลูกค้าด้วยระบบปรับอากาศเชิงพาณิชย์ และอุปกรณ์เพิ่มเติมจากผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขายในกลุ่ม B2B ให้สูงขึ้นที่ 30% ของยอดขายรวมของบริษัทฯ ในปีงบประมาณ 2568”
มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา ได้ฉลองครบรอบ 50 ปี ของการดำเนินงานเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยทางบริษัทฯ มีปรัชญาในการบริหารงานว่า “เราจะส่งมอบคุณภาพชีวิตที่สมบูรณ์ยิ่ง ๆ ขึ้นไปให้กับคนไทย ผ่านการบริการ และการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านพร้อมอุปกรณ์สำหรับที่พักอาศัย และจะช่วยแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมองค์กร” ซึ่งภายใต้ปรัชญานี้ เราจะไม่หยุดยั้งในความพยายามที่จะทำให้ทุกคนในประเทศไทยมีชีวิตที่ปลอดภัย มั่นคง และ สะดวกสบาย
นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า “ในปี 2565 นี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งด้านงานบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่องโดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก โดยได้พัฒนาระบบบริการหลังการขายแบบ Real Time ด้วยระบบ “MKY Online Service System” เชื่อมโยงศูนย์บริการมิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา และศูนย์บริการแต่งตั้งทั่วประเทศ เพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าทั้งกลุ่ม B2C และ B2B มากยิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มเครือข่ายในการสื่อสารที่ทันสมัยให้ทีมช่างเทคนิคของศูนย์บริการมิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา และศูนย์บริการแต่งตั้ง สามารถติดต่อประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มศักยภาพในการให้บริการหลังการขายสำหรับกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์ครอบคลุมทุกภูมิภาค สอดคล้องตามนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ด้านการขยายฐานลูกค้ากลุ่มธุรกิจ B2B เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจภายใต้แผนยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศของภาครัฐ ดังนั้นเราจะเน้นเสริมกำลังทีมช่างผู้ชำนาญการเพื่อรองรับงานบริการ ณ ศูนย์บริการสาขา “สำนักงานสนับสนุนลูกค้าโครงการระบบปรับอากาศซิตี้มัลติ” ทั้ง 8 แห่งทั่วประเทศ
ขยายขอบเขตการให้บริการ “Express Team Service” จากกระแสตอบรับที่ดีด้านการให้บริการ “Express Team Service” หรือบริการซ่อมเครื่องปรับอากาศภายในบ้านด่วนภายใน 24 ชม. ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ทำให้ในปีนี้ บริษัทฯ ได้ขยายขอบเขตการให้บริการไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ อาทิ ตู้เย็น พัดลม และปั๊มน้ำ เป็นต้น ด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรช่างเทคนิค ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการฝึกอบรมให้สอดคล้องกับวิถี New Normal ด้วยการสอนผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ให้แก่บุคลากรช่างเทคนิคของศูนย์บริการมิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา และศูนย์บริการแต่งตั้ง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านงานบริการให้กับลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมให้ลูกค้ามีความมั่นใจในคุณภาพมาตรฐานการให้บริการหลังการขายของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค และถึงแม้ว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะยังไม่แน่นอน แต่บริษัทฯ จะยังคงเดินหน้าเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าของเราอย่างเต็มกำลัง เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องต่อไป”
นายทาคาชิ ฟูจิกิ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า “กลยุทธ์การตลาดในปี 2565 นี้ สำหรับกลุ่ม B2C บริษัทฯ เน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์หลัก ประกอบด้วย เครื่องปรับอากาศภายในบ้าน ตู้เย็น พัดลม เป็นต้น เพื่อให้เกิดพื้นที่ที่สะดวกสบาย โดยมุ่งเน้นที่คุณภาพของเครื่องปรับอากาศพร้อมด้วยการพัฒนาฟังก์ชั่นการทำงาน ทั้งด้านการไหลเวียนอากาศและความสะอาดของอากาศ นอกจากนี้ในกลุ่มธุรกิจ B2B บริษัทฯ มุ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ เพื่อรองรับความต้องการด้านสาธารณูปโภคที่กำลังเติบโต รวมถึงโรงแรมและร้านค้าในต่างจังหวัด โดยนำเสนอเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ล่าสุดที่เหมาะสำหรับร้านค้า คือเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม Standard Inverter M-Series เพื่อขยายธุรกิจ B2B ต่อไป”
“สำหรับกลยุทธ์ด้านการสื่อสารการตลาดในปีนี้ บริษัทฯ เน้นเสริมแกร่งด้านการสื่อสารออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งพัฒนา คอนเทนต์ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ และเข้าใจในลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์ได้ง่าย พร้อมทั้งปรับปรุงรูปแบบการจัดแสดงผลิตภัณฑ์หน้าร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจในผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น รวมทั้งสร้างการรับรู้ แบรนด์ผ่านการร่วมเป็นผู้สนับสนุนสโมสรฟุตบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (BGPU) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 นอกจากนี้ ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมที่ทำให้สัมผัสถึงพื้นที่ปรับอากาศที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นและประหยัดพลังงาน” เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจได้ง่ายถึงฟังก์ชั่นการใช้งานของ 3D-Move Eye Kiwami โดยจะเริ่มออกอากาศกลางเดือนกุมภาพันธ์ นี้ พร้อมทั้งยังคงยึดมั่นในถ้อยแถลงองค์กรที่ว่า “Changes for the Better” “การเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า” โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ นำเสนอแก่ผู้บริโภค เพื่อครอง Top Brand ที่ได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจต่อเนื่อง” นายทาคาชิ ฟูจิกิ กล่าวทิ้งท้าย
โดยในปี 2565 นี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่
- เครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม3D Move-eye Kiwami AW Series โดดเด่นด้วยเซ็นเซอร์อัจฉริยะ 3D Move-eye Kiwami มากถึง 32 จุด ตรวจจับอุณหภูมิและความเคลื่อนไหวของผู้คนได้อย่างละเอียดแม่นยำ ผสานการทำงานร่วมกับ Fast Cooling A.I. ช่วยให้เย็นเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการปรับอุณหภูมิอัตโนมัติพร้อมควบคุมทิศทางการกระจายความเย็นได้ 3 รูปแบบ ตามความเหมาะสมกับอุณหภูมิห้องและผู้ใช้งานสัมผัสความเย็นสบายที่มาพร้อมการประหยัดพลังงาน และมั่นใจในคุณภาพอากาศด้วย Plasma Quad Plus ระบบฟอกอากาศที่ช่วยดักจับและยับยั้งสิ่งเจือปนในอากาศขนาดเล็ก เช่น เชื้อรา ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และสามารถยับยั้งเชื้อไวรัส ได้ถึง 99.8%
- เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ (Package Air Conditioner)รุ่นใหม่ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม Standard Inverter M-Series โดดเด่นด้านการประหยัดพลังงาน และสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริม Plasma Quad Connect แผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง ช่วยฟอกอากาศ ทำให้อากาศบริสุทธิ์พร้อมมอบพื้นที่ที่สะดวกสบาย
- ตู้เย็น2 ประตู รุ่นFS45 ที่มาพร้อมช่อง Soft Freezing Case และ Capsule Door Pocket เพิ่มความสะดวกสบาย และระบบ Neuro Inverter เพื่อการประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น และ รุ่นFC38 เพิ่มพื้นที่ความจุมากขึ้น ใช้พื้นที่ติดตั้งน้อย โดยเป็นรุ่นที่เพิ่มความจุต่อยอดมาจากรุ่น FC35 ที่ได้รับความนิยมอยู่เดิม
- พัดลมมิตซูบิชิ อีเล็คทริคขนาด 12-18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ ทันสมัย มาพร้อมกับหน้ากาก Fan grill และตัวเครื่องรูปโฉมใหม่ ทั้งยังประหยัดพลังงานและใช้งานสะดวกสบาย
- เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) แผ่นกรอง HEPA ประสิทธิภาพสูงที่พัฒนาขึ้นใหม่ สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก 0.1 ไมครอนได้ถึง 99.97% (อัตราการกำจัดต่อหนึ่งรอบ) นอกจากนี้ตัวแผ่นกรอง HEPA ยังมีส่วนผสมของสารต้านไวรัส จึงสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสได้ถึง 99.925% ภายใน 1 ชั่วโมง โดยในรุ่นดีลักซ์ (MA-E100R-T) และรุ่นมาตรฐาน (MA-E85R-T) สามารถให้ปริมาณลม 600 ลบ.ม./ชม. และ 510 ลบ.ม./ชม.
สำหรับรุ่นดีลักซ์ (MA-E100R-T) มีเซ็นเซอร์อัจฉริยะ i-see sensor ที่ช่วยส่งมอบอากาศสะอาดได้ตรงจุดและแม่นยำ และรุ่นมาตรฐาน (MA-E85 R-T) มาพร้อมฟังก์ชั่น Smart Search Sensors ช่วยดักจับทิศทางที่ส่งกลิ่นและกรองฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมการไหลเวียนของอากาศทั้ง 5 ทิศทาง พร้อมระบบทำความสะอาดแผ่นกรองอัตโนมัติ