ยุคนี้ทุกองค์กรต่างต้องการก้าวเป็นผู้นำในภาคธุรกิจของตน แต่หลายองค์กรยังประสบปัญหาในการเปลี่ยนแปลงให้ทันกับดิสรัปชัน (disruption) ที่จู่โจมเข้ามาในแทบทุกมิติ โดยเฉพาะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้การประกอบธุรกิจในทุกระดับเกิดความผันผวนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวให้รวดเร็วกว่าที่เคยเป็นมา โดยปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ทุกองค์กรสามารถเปลี่ยนแปลงได้คงหนีไม่พ้น “คนในทีม” และคนสำคัญในการพาทีมไปสู่เป้าหมาย คือ “ผู้นำ” ซึ่งผู้นำที่มีทักษะการบริหารจัดการทีมที่ดี จะสามารถรับมือกับปัญหาและความท้าทายระหว่างทางได้ดีกว่า ซึ่งจะช่วยให้ทีมทำงานได้ง่าย และถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างสวยงาม
ในโลกธุรกิจทุกวันนี้ การเป็นผู้นำที่ดีนั้นต้องไม่มองเพียงแค่ความต้องการ เป้าหมาย และความท้าทายของตัวเองเท่านั้น แต่จะต้องมองให้เห็นความต้องการ เป้าหมาย และความท้าทายของคนอื่นๆ ในทีมด้วย หรือกล่าวง่ายๆ คือ ต้องเป็นผู้นำที่มี “Outward Leadership” หรือ การปรับมุมคิดด้วยการยึดความต้องการของผู้อื่นเป็นที่ตั้ง เพื่อช่วยให้สามารถนำทีมไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมรับมือทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในยุคที่ทุกอย่างถูกดิสรัปอยู่ตลอดเวลา
โดย SEAC ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการพัฒนาทักษะที่จำเป็นให้กับคนและยกระดับศักยภาพองค์กร ได้แนะนำให้รู้จักสองความแตกต่างของภาวะความเป็นผู้นำแบบ Inward ที่ยึดตัวเองเป็นศูนย์ลาง และแบบ Outward ที่เห็นใจคนอื่น เพื่อผลักดันผู้นำให้มีทักษะการสร้างสุดยอดทีมเวิร์ก เพื่อให้ทุกคน ทุกทีม และทุกองค์กร พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและสร้างโอกาสสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ อย่างแท้จริง