กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน ชวนคนไทยส่งความสุขปีใหม่ด้วยกระเช้าของขวัญจากสินค้าชุมชน พบกับคาราวานของขวัญและสินค้า OTOP กว่า 2 หมื่นรายการ ให้เกิดการกระจายรายได้และเกิดการหมุนเวียนในระดับฐานราก ในงาน OTOP City 2019 ระหว่างวันที่ 15 – 23 ธันวาคมนี้ รวม 9 วัน ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน OTOP City 2019 ภายใต้แนวคิด “เทศกาลของขวัญปีใหม่ ของฝากถูกใจ ผลิตภัณฑ์ทั่วไทยรวมไว้ใน OTOP City 2019” โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมแถลงข่าว ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การจัดงาน OTOP City 2019 เป็นหนึ่งในงานส่งเสริมการตลาดให้แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่รัฐบาลให้ความสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เชื่อมโยงเศรษฐกิจมหภาค เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทุกภาคส่วน โดยมีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งผลการจัดงาน OTOP City ที่ผ่านมา (13 ครั้ง) สามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายสินค้า OTOP ได้มากกว่า 13,000 ล้านบาท (13,194,884,379 บาท) และในปีนี้ กรมการพัฒนาชุมชนคาดว่าจะมียอดจำหน่ายในงานไม่น้อยกว่า 1,400 ล้านบาท มีผู้เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 5 แสนคน และมีผู้ผลิตผู้ประกอบการเข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 3,500 ราย โดยกำหนดให้มีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2562 เวลา 15.00 น. ซึ่งกระทรวงมหาดไทย คาดหวังว่าจะเป็นโอกาสอันดี ที่ประเทศไทยจะได้แสดงให้ชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้เห็นถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ที่เป็นภูมิปัญญาของคนไทย ทั้งนี้ จากข้อมูลเดือนตุลาคม 2562 มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าชุมชน มากกว่า 237,000 ล้านบาท (237,255,028,633 บาท) ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนและประชาชน ฉะนั้น การจัดงานในครั้งนี้ จึงมุ่งหวังว่าจะนำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานในครั้งนี้ เป็นการจัดงานระดับประเทศ ที่มีความพิเศษและมีกิจกรรมที่หลากหลาย มีสินค้ามากกว่า 20,000 รายการ โดยภายในงาน ประกอบด้วย 7 ส่วนหลัก ได้แก่
1. นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ภายใต้แนวคิด “จิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ”
2. การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP 5 ประเภท หรือ OTOP Classic จาก 77 จังหวัด มากกว่า 2,500 ราย มีสินค้าให้เลือกมากกว่า 20,000 รายการ แบ่งเป็น 1) OTOP 3-5 ดาว 2) OTOP Lady โซนพิเศษเฉพาะผู้หญิง “ช้อปสินค้าครบจบในที่เดียว” 3) OTOP ฮาลาล อาทิ น้ำอินทผลัม 1000 พฤกษาฟาร์ม จ.กาญจนบุรี, ไชโป๊วหวาน แม่กิมฮวย จ.ราชบุรี, ขนมข้าวเหนียวมะม่วงฟรีซดราย จ.จันทบุรี,มะพร้าวเคลือบช็อกโกแลต จ.ประจวบคีรีขันธ์ 4) OTOP เพื่อสุขภาพ 5) OTOP Premium นำเสนอผลงานศิลปิน OTOP อาทิ งานประดิษฐ์จากดินไทย โดยนางสาวนงลักษณ์ ทรัพย์เจริญ จังหวัดพิษณุโลก, เครื่องเคลือบเวียงกำหลง โดยนายทัน ธิจิตตัง จังหวัดเชียงราย, ผ้าซิ่นตีนจกโบราณ โดยนายโกมล พานิชพันธ์ จังหวัดแพร่ 6) OTOP Trader 7) OTOP หน่วยงานภาคี และ 8) OTOP ชวนชิม
3. กิจกรรมนิทรรศการกรมฯ และหน่วยงานภาคี ประกอบด้วย OTOP ออนไลน์ และนิทรรศการ การจัดแสดงและจำหน่ายของ 10 หน่วยงานภาคี 4. กิจกรรมส่งเสริมการขาย ได้แก่ การแสดงศิลปะพื้นบ้าน และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง, OTOP Story, กิจกรรมคัดเลือกนักขายมืออาชีพ, กิจกรรมจับรางวัลชิงโชค เพียงช้อปครบทุก 1,000 บาท ลุ้นรับรางวัลสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง ทุกวัน ๆ ละ 10 เส้น รวม 90 รางวัล วันสุดท้ายลุ้นรับรางวัลใหญ่ สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 5 รางวัล มูลค่า 500,000 บาท 5. กิจกรรมการบริการ เช่น ธนาคาร/ไปรษณีย์, Health & Spa, สนามเด็กเล่น, บริการขนส่งสินค้า ฯลฯ
สำหรับกิจกรรม Highlight ในปีนี้ ได้แก่ 1) โซนของขวัญปีใหม่ การจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ของขวัญของฝาก จาก 40 จังหวัด 2) โซนหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี พบกับการจำลองชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี 4 ภาค จำนวน 8 หมู่บ้าน 3) OTOP Masterpiece นำเสนอผลงานที่มีความโดดเด่น เช่น ผลิตภัณฑ์ย่านลิเภา จังหวัดนครศรีธรรมราช งานไม้แกะสลัก จังหวัดเชียงใหม่ เรือสำเภาจำลอง จังหวัดชลบุรี ดีบุกกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร 4) ผลิตภัณฑ์ที่ชนะการประกวด Knowledge based OTOP (KBO) 5) โซนตัดเย็บเสื้อผ้า ให้บริการตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปในงาน
ทั้งนี้ การสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชนในงาน OTOP City 2019 นอกจากจะได้ของขวัญ ของที่ระลึกจากภูมิปัญญาและฝีมือของคนไทยในราคายุติธรรมแล้ว ยังช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่พี่น้อง ในชุมชนทั้งระบบ ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ ในมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” ทั้ง 3 เฟส โดยขยายช่องทางการซื้อสินค้าของประชาชนไปสู่ E-Marketplace ผ่านช่องทางของ thailandpostmart.com ซึ่งถือเป็นแหล่งรวมสินค้า OTOP จากชุมชน และผลิตผลทางการเกษตร ในระบบ E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุด และยังเป็นการส่งเสริมการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและผู้ประกอบการรายย่อยโดยตรงด้วย จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนเลือกซื้อกระเช้าของขวัญและสินค้า OTOP ประเภทต่าง ๆ ทั้งที่ได้เข้าร่วมมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” แล้ว และกำลังจะเข้าร่วมโครงการ เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนในชนบท เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในระดับฐานรากต่อไป
ด้านนายประวิช สุขุม เลขานุการร่วมภาคเอกชน คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของภาคเอกชนก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย ในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากช่วง 5 ปีมานี้ ทำให้ได้ทราบถึงศักยภาพของพี่น้องคนไทย ที่มีทั้งภูมิปัญญาและวัตถุดิบในการผลิตสินค้าดีๆ ซึ่งส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่ดี ทั้งในแง่การกระจายรายได้อย่างทั่วถึง และด้านการสร้างความมั่นคงให้กับประชาชนฐานราก โดยในงาน OTOP ปีนี้ ทางคณะเศรษฐกิจฐานราก ได้จัดแสดงผลงานของบริษัทประชารัฐรักสามัคคี รวมทั้งจะเชิญชวนนักออกแบบเสื้อผ้าชื่อดังเข้ามาร่วมงาน และขอเชิญชวนทุกท่านมาเลือกของขวัญของฝากจากกระเช้า OTOP หรือจะซื้อไว้เป็นของที่ระลึกก็คุ้มค่ามาก เพราะสินค้ามีแต่ของดีที่มีคุณภาพทั้งนั้น