1 กรกฎาคม 2563 โดฮา ประเทศกาตาร์ — สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ยืนหยัดเป็นผู้นำในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินอย่างต่อเนื่อง เปิดบินเพิ่ม 11 จุดหมายปลายทางในหนึ่งวัน ภายใต้แคมเปญ ‘Take-off Wednesday’ ตั้งเป้าภายในกลางเดือนกรกฎาคม จะขยายเครือข่ายเส้นทางบินเป็น 430 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สู่ 65 จุดหมายปลายทาง โดยล่าสุดเพิ่มเส้นทางบินดังนี้

1 ก.ค.

  • บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย (1 เที่ยวบินต่อวัน)
  • เบรุต ประเทศเลบานอน (7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)
  • เบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย (3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)
  • เบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน (3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)
  • บอสตัน ประเทศสหรัฐฯ (5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเพิ่มเป็นทุกวันตั้งแต่ 1 ส.ค.)
  • เอดินเบอระ สหราชอาณาจักร (3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)
  • ลาร์นาคา ประเทศไซปรัส (3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)
  • ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐฯ (3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพิ่มเป็น 5 เที่ยวต่อสัปดาห์ตั้งแต่ 17 ก.ค. และ 6 เที่ยวต่อสัปดาห์ตั้งแต่ 1 ส.ค.)
  • ปราก สาธารณรัฐเช็ก (3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)
  • วอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐฯ (5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเพิ่มเป็นทุกวันตั้งแต่ 1 ส.ค.)
  • ซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย (3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)

4 ก.ค.

  • โตรอนโต ประเทศแคนาดา (3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จุดหมายปลายทางใหม่)

9 ก.ค.

  • อังการา ประเทศตุรกี (3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)

11 ก.ค.

  • แซนซิบาร์ ประเทศแทนซาเนีย (4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)

13 ก.ค.

  • คิลิมันจาโร ประเทศแทนซาเนีย (3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)

15 ก.ค.

  • บูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย (4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)
  • โซเฟีย สาธารณรัฐบัลแกเรีย (4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)
  • เวนิส ประเทศอิตาลี (3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)

สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์สกาตาร์ แอร์เวย์สทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐทั่วโลกอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การเปิดเส้นทางสอดคล้องกับมาตรการผ่อนคลายข้อกำหนดการเดินทางเข้า-ออกประเทศต่างๆ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเริ่มมีการผ่อนปรนให้ดำเนินการเที่ยวบินพาณิชย์มากขึ้นในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากสายการบินฯตั้งเป้ากลับมาให้บริการเกือบ 2 ใน 3 ของเส้นทางทั้งหมดที่เคยมีให้บริการก่อนโควิค-19 และคาดว่าจะให้บริการจำนวนเที่ยวบินมากกว่าเดือนก่อนเกือบ 2 เท่า หรือราว 3,500 เที่ยว เทียบกับจำนวนเพียง 2,100 เที่ยวในเดือนมิถุนายน

กาตาร์ แอร์เวย์ส ยืนหยัดเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการบินในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ได้สั่งสมประสบการณ์มากขึ้นในการดูแลผู้โดยสารทั้งด้านความปลอดภัยและการสร้างความเชื่อมั่น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสายการบินอื่นๆที่ระงับการให้บริการ ทั้งนี้ กาตาร์ แอร์เวย์ส ยังคงให้บริการการเดินทางที่น่าไว้วางใจและน่าเชื่อถือซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยให้บริการเที่ยวบินน้อยกว่า 30 จุดหมายปลายทาง นอกจากนี้ สายการบินฯได้ปรับเปลี่ยนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เท่าทันกับมาตรการของท่าอากาศยานนานาชาติและใช้ระบบรักษาความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ทันสมัยที่สุดทั้งในห้องโดยสารและ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติฮาหมัด (HIA) ซึ่งล่าสุดได้รับรางวัลสนามบินที่ดีที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง 6 ปีซ้อน

ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้โดยสารมีความไว้วางใจที่จะวางแผนการเดินทาง สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส จึงเพิ่มทางเลือกมาตรการช่วยเหลือให้กับผู้โดยสาร โดยสามารถเปลี่ยนแปลงวันเดินทางได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งและเปลี่ยนแปลงจุดหมายปลายทางได้ภายในระยะทาง 5,000 ไมล์จากจุดหมายปลายทางเดิม ซึ่งจะไม่มีการเก็บค่าส่วนต่างราคาบัตรโดยสารสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 แต่หากเดินทางหลังจากนั้นจะต้องชำระค่าธรรมเนียมต่างๆตามปกติ บัตรโดยสารที่ระบุวันเดินทางภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 สามารถขยายอายุตั๋วเป็น 2 ปีนับจากวันที่ออกตั๋ว ตรวจสอบเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ www.qatarairways.com/RelyOnUs

ผู้โดยสารชั้นธุรกิจที่เดินทางในที่นั่งแบบ Qsuite จะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยผนังกั้นและประตูเลื่อนปิดมิดชิด อีกทั้งยังสามารถกดเลือกปุ่ม Do Not Disturb (DND) ที่อยู่บริเวณแผงควบคุมข้างที่นั่ง หากต้องการลดการมีปฏิสัมพันธ์กับพนักงาน ที่นั่งแบบ Qsuite มีให้บริการบนเที่ยวบินสู่กว่า 20 จุดหมายปลายทาง ได้แก่ ลอนดอน ซิดนีย์ สิงคโปร์ และดัลลาส-ฟอร์ตเวิร์ธ และอื่นๆที่จะทยอยเพิ่มเข้ามาในอนาคต

สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์สกาตาร์ แอร์เวย์ส เพิ่มมาตรการความปลอดภัยและสุขอนามัยบนเครื่องบินสำหรับผู้โดยสารและพนักงานบริการ ให้พนักงานสวมใส่อุปกรณ์ PPE (Personal Protective Equipment) ได้แก่ ถุงมือ หน้ากากอนามัย แว่นตานิรภัยและชุดป้องกันแบบใหม่ที่จะสวมใส่ได้พอดีกับชุดเครื่องแบบลูกเรือ รวมถึงได้ปรับเปลี่ยนขั้นตอนการบริการเพื่อลดการสัมผัสระหว่างผู้โดยสารและพนักงานระหว่างเที่ยวบิน

ขณะเดินทาง ผู้โดยสารทุกคนจะได้รับชุดอุปกรณ์ป้องกัน ได้แก่ หน้ากากอนามัย ถุงมือ และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ นอกจากนี้ ยังมีแผ่นป้องกันใบหน้า (Face Shield) สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ โดยจะแจกให้บริเวณเคาน์เตอร์เช็คอินสำหรับผู้โดยสารเดินทางออกจากท่าอากาศยานฮาหมัด กรุงโดฮา และจะแจกที่บริเวณประตูก่อนขึ้นเครื่องสำหรับผู้โดยสารจากท่าอากาศยานอื่นๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการต่างๆทั้งในห้องโดยสารและสนามบินฮาหมัดได้ที่ qatarairways.com/safety

ท่าอากาศยาน HIA ใช้มาตรการทำความสะอาดอย่างเคร่งครัดและใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในทุกพื้นที่ ทำการฆ่าเชื้อจุดสัมผัสทุกๆ 10-15 นาที ทำความสะอาดประตูขึ้นเครื่องหลังสิ้นสุดการให้บริการทุกเที่ยวบิน ติดตั้งจุดแจกจ่ายแอลกอฮอล์ล้างมือบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองและจุดสแกนสัมภาระ HIA ได้รับรางวัลอันดับที่ 3 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก (Third Best Airport in the World) จากสถาบันสกายแทรกซ์ World Airport Awards ประจำปี 2563 ผ่านการคัดเลือกจากสนามบินกว่า 550 แห่งทั่วโลก รวมถึงยังได้รับรางวัลสนามบินที่ดีที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง (Best Airport in the Middle East) 6 ปีติดต่อกัน และรางวัลการบริการของพนักงานดีที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง (Best Staff Service in the Middle East) 5 ปีติดต่อกัน