เป็นอีก 1 วันที่ทุกคนจะจดจำ การรวมพลังของคนในสังคม และคนพิการทางจิตสังคม และ คนพิการทางการเคลื่อนไหว ได้ร่วมกันทำกิจกรรม เดิน วิ่ง ปั่น เพื่อชีวิตใหม่…..
นักวิ่ง นักเดินเพื่อสุขภาพ นักปั่นวีลแชร์ ต่างพร้อมกันมาเติมพลังชีวิต
เริ่มจาก05.20 น. ได้เหยียด ยืด คลายกล้ามเนื้อกับครูบอย ประจักษ์ สิงห์สถิต ซึ่งแฟนโยคะจะรู้จักครูบอยเป็นอย่างดี และต่อด้วยการให้ความรู้เรื่องการวิ่งโซน 2 โดยครูน้อย สมศักดิ์ วโรภาษ ซึ่งสามารถเอาไปใช้จริงในการวิ่งได้เลย
เมื่อทุกคนพร้อม ก็เข้าสู่พิธีเปิด ได้รับเกียรติจากท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี คุณอำพล อังคภากรณ์กุล เปิดงาน
เมื่อเสียงแตรดังขึ้น นักวิ่ง 10 กม. ออกนำไปก่อน แล้วตามด้วยนักวิ่ง 5 กม. ปิดท้ายด้วยเดินเดี่ยว และเดินครอบครัว 2.4 กม. ภาพที่เป็นกำลังใจ และเติมพลังให้แก่กันและกัน เป็นบรรยากาศที่นักปั่นวีลแชร์
ไม่ว่าจะเป็นเด็กน้อย หรือ ครอบครัวผู้พิการทางการเคลื่อนไหว ต่างปั่นไปพร้อมๆกับนักวิ่ง เห็นรอยยิ้ม ความสดใส ร่าเริงของนักปั่นวีลแชร์ เสริมพลังให้พวกเราที่มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจสู้ และเติมกำลังใจได้ดีเยี่ยม
7.00 น. นักวิ่ง นักปั่นวีลแชร์ ก็เริ่มเข้าเส้นชัยและรับเหรียญแห่งความภาคภูมิใจว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างชีวิตใหม่
การแสดงบนเวทีเริ่มด้วยการแสดงดนตรี 2 ชิ้นจากคนพิการทางจิตสังคม วง Living Liveและต่อด้วยการแสดงจากศูนย์พัฒนาชีวิตผู้ป่วยจิตเวชบ้านสวนสายใย-ก้อนแก้ว นักร้องหนุ่ม “น้องเอ ยอดชาย เคนสูงเนิน” ผู้มีประสพการณ์ตรงโรคซึมเศร้า มากับบทเพลง ” ออเจ้า เอย ” ไพเราะไม่แพ้ต้นฉบับ และต่อด้วยเพลงฟื้นคืนคนดี ซึ่งกลุ่มคนพิการทางจิตสังคม ได้แสดงศักยภาพด้วยการร้องเพลงที่มีความหมายถึงชีวิตใหม่ที่ได้รับการฟื้นฟู และช่วงนี้จบท้ายด้วยการเต้นโชว์จากสมาคมเหลี่ยมสิริ มาร์ฮิลล์ ในเพลง ไหงง่อง นักวิ่งออกมาเต้นหน้าเวทีกันอย่างสนุกสนาน

ปิดท้ายโชว์พิเศษ ก่อนมอบรางวัลด้วย โชว์จากวง Music Inspires เครือข่ายศิลปะดนตรีคนพิการ ที่มีศิลปินนักร้อง-นักกีตาร์ที่พิการทางสายตา นิ-สำราญ หอมวงศ์ และพี่เค สมพร สายกลิ่น ไพเราะฟังเพลิน… พักเหนื่อยแล้วแวะรับอาหารที่ผู้จัดจัดเตรียมไว้ให้มีก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้ม น้ำสมุนไพร กล้วยน้ำว้าเพิ่มพลังอีกสัก 1 ผล

แล้วก็ไม่ลืมที่จะแวะต่อแถวจับฉลาก รับของรางวัลกลับบ้านฟรีๆอีก